กิจการ 28 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ครั้นรอดพ้นภัยแล้ว, พวกเราจึงรู้ว่าเกาะนั้นชื่อเมลีเต. 2 ฝ่ายชาวเกาะนั้นเป็นชาวนา เขาได้มีความกรุณาแก่พวกเราเป็นอันมาก เขาก่อไฟไว้รับเราทั้งหลายเพราะฝนตกและหนาว. 3 เมื่อเปาโลเก็บกิ่งไม้แห้งมัดหนึ่งมาใส่ไฟ, มีงูพิษตัวหนึ่งออกมาเพราะถูกความร้อน กัดมือของเปาโลติดอยู่. 4 เมื่อพวกชาวป่านั้นเห็นงูกัดติดห้อยอยู่ที่มือของเปาโล จึงพูดกันว่า, “คนนี้คงเป็นผู้ฆ่าคนแน่นอน ถึงแม้ว่ารอดพ้นจากทะเลแล้ว, พระผู้ทรงธรรมก็ยังไม่ยอมให้รอดตายไปได้.” 5 แต่เปาโลได้สะบัดมือให้งูตกลงไปในไฟ, และหาเป็นอันตรายประการใดไม่. 6 ฝ่ายเขาทั้งหลายคอยดูอยู่, คิดว่ามือเปาโลจะบวมขึ้นหรือจะล้มลงตายกันที แต่ครั้นเขาคอยดูอยู่ช้านานมิได้เห็นท่านเป็นอะไร, เขาจึงกลับถือว่าท่านเป็นพระ โดยพระเยซูเปาโลรักษาบิดาของปปเลียว 7 เจ้าแห่งเกาะนั้นชื่อปปเลียวมีไร่นาอยู่ใกล้ตำบลนั้น. ท่านได้ต้อนรับเลี้ยงดูเราทั้งหลายไว้อย่างดีสามวัน. 8 ฝ่ายบิดาของปปเลียวนั้นเป็นไข้และเป็นบิดนอนป่วยอยู่. เปาโลจึงเข้าไปหาท่าน อธิษฐานแล้ววางมือบนท่านรักษาให้หาย. 9 ครั้นทำอย่างนั้นแล้ว, คนอื่นๆ ที่เกาะนั้นซึ่งมีโรคต่างๆ ก็ได้มาหา, และเขาก็หายด้วย. 10 เขาทั้งหลายจึงนับถือพวกเราเป็นอันมาก. เมื่อเราจะแล่นเรือไปจากที่นั่น เขาจึงนำสิ่งของที่เราต้องการมาให้เราทุกสิ่ง 11 ครั้นล่วงไปสามเดือน พวกเราจึงลงเรือกำปั่นซึ่งมาจากเมืองอาเล็กซันดะเรีย และค้างอยู่ที่เกาะนั้นในฤดูหนาว กำปั่นลำนั้นมีรูปลูกแฝดเป็นเครื่องหมาย. 12 ครั้นแล่นไปแล้ว พวกเราจึงแวะที่เมืองซุราคูซายจอดอยู่ที่นั่นสามวัน. 13 เราออกจากที่นั่นล้อมไปยังเมืองเรฆิอน. ครั้นรุ่งขึ้นลมทิศใต้ก็พัดมา, วันที่สองจึงมาถึงเมืองโปติโอลอย. 14 เราได้พบพวกพี่น้องที่นั่น, และเขาเชิญเราให้หยุดพักอาศัยอยู่กับเขาเจ็ดวัน. แล้วเราจึงไปถึงกรุงโรม. 15 ครั้นพวกพี่น้องในกรุงโรมได้ยินข่าวถึงพวกเรา, เขาจึงออกมาหาเราที่ตลาดแห่งหนึ่งเรียกว่าบ้านอัปปีโอและบ้านไตรภัตตาคาร. เมื่อเปาโลเห็นเขาแล้ว ท่านจึงขอบพระเดชพระคุณพระเจ้าและมีใจชื่นบานขึ้น เปาโลกับพวกจึงไปถึงกรุงโรม 16 ครั้นพวกเรามาถึงกรุงโรม, เขายอมให้เปาโลอยู่ต่างหากคนเดียว, ให้ทหารคนหนึ่งคุมไว้ 17 ครั้นล่วงสามวันแล้ว. เปาโลจึงเชิญพวกผู้ใหญ่ในพวกยูดายมาประชุมกัน. เมื่อประชุมกันแล้วท่านจึงกล่าวแก่เขาว่า. “ดูก่อนท่านพี่น้องทั้งหลาย, ถึงแม้ว่าข้าพเจ้ามิได้กระทำผิดสิ่งหนึ่งสิ่งใดต่อพลเมือง หรือผิดธรรมเนียมของบรรพบุรุษ, ข้าพเจ้ายังต้องออกจากกรุงยะรูซาเลม เป็นนักโทษอยู่ในมือของพวกโรมัน. 18 ครั้นพวกนั้นได้ไต่สวนข้าพเจ้าแล้ว ก็หมายว่าจะปล่อยข้าพเจ้าเสีย, เพราะไม่มีเหตุอะไรที่ข้าพเจ้าควรจะต้องตาย. 19 แต่ว่าเมื่อพวกยูดายพูดคัดค้าน. ข้าพเจ้าจึงจำต้องอุทธรณ์ถึงกายะซา แต่มิใช่ข้าพเจ้าจะฟ้องชนประเทศร่วมชาติของข้าพเจ้าก็หามิได้. 20 เหตุฉะนั้นข้าพเจ้าจึงเชิญท่านทั้งหลายมาเพื่อจะได้เห็นหน้าและพูดกับข้าพเจ้า. เพราะที่ข้าพเจ้าถูกล่ามโซ่นี้ก็เนื่องด้วยความหวังของชาติยิศราเอล.” 21 เขาทั้งหลายจึงตอบท่านว่า, “พวกเราหาได้รับจดหมายมาจากมณฑลยูดายกล่าวถึงท่าน, หรือหามีพวกพี่น้องผู้หนึ่งผู้ใดมากล่าวร้ายถึงท่านไม่. 22 แต่ข้าพเจ้าทั้งหลายปรารถนาจะฟังท่านกล่าวว่าท่านคิดเห็นอย่างไร, เพราะข้าพเจ้าทั้งหลายทราบว่า พวกที่ถือลัทธินี้ก็ถูกติเตียนทุกแห่ง.” เปาโลเป็นพะยานถึงแผ่นดินของพระเจ้า 23 เมื่อเขานัดวันพบกับท่าน, คนเป็นอันมากก็พากันมาหายังที่อาศัยของท่าน ท่านจึงกล่าวเป็นพะยานแก่เขาว่าถึงแผ่นดินของพระเจ้า, และแนะนำให้เขาเชื่อถือในพระเยซู ด้วยคัดข้อความออกจากคัมภีร์บัญญัติของโมเซ และออกจากคัมภีร์ศาสดาพยากรณ์ตั้งแต่เช้าจนเย็น. 24 คำที่ท่านกล่าวนั้นบางคนก็เชื่อบางคนก็ไม่เชื่อ. 25 เมื่อเขาไม่เห็นพ้องด้วยเขาก็จะลาไป, เปาโลก็ได้กล่าวข้อความแถมท้ายว่า, “พระวิญญาณบริสุทธิ์ตรัสแก่บรรพบุรุษของท่านทั้งหลายโดยยะซายาผู้พยากรณ์ถูกต้องดีแล้วว่า, 26 จงไปหาชนประเทศนี้และกล่าวว่า, เจ้าทั้งหลายฟังก็ได้ยิน, แต่หาเข้าใจไม่ ดูก็เห็น, แต่หาสังเกตรู้ไม่. 27 ด้วยว่าใจของชนประเทศนี้แข็งกะด้างมาก, และหูก็ตึง เขาปิดตาของเขาเสีย, เกลือกว่าตาเขาจะเห็น, หูเขาจะได้ยิน, และเขาจะเข้าใจ. แล้วจะกลับใจเสียใหม่, และเราจะช่วยเขาให้รอด.’ 28 เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายจงเข้าใจว่า พระเจ้าจะทรงใช้คนให้นำความรอดของพระองค์นี้ไปยังคนต่างชาติ, แล้วเขาจะฟังด้วย.” 30 เปาโลจึงได้อาศัยอยู่ครบสองปีในตึกที่ท่านเช่า, และได้ต้อนรับคนทั้งปวงที่มาหาท่าน, 31 ทั้งประกาศแผ่นดินของพระเจ้า, และสั่งสอนข้อความซึ่งกล่าวถึงพระเยซูคริสต์เจ้าโดยใจกล้า, หามีผู้หนึ่งผู้ใดห้ามปรามท่านไม่ |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society