กิจการ 20 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940เปาโลจึงเรียกสาวกมาพูดหนุนน้ำใจ 1 ครั้นการวุ่นวายนั้นสงบแล้ว, เปาโลจึงเรียกเหล่าสาวกมาพูดหนุนน้ำใจ แล้วก็ลาเขาเข้าไปในมณฑลมากะโดเนีย. 2 เมื่อได้ไปตามที่เหล่านั้นทั่วแล้ว, และได้สั่งเตือนสติเขามาก, ท่านก็ได้มายังประเทศเฮเลน. 3 ท่านพักอยู่ที่นั่นสามเดือน, และเมื่อท่านจวนจะลงเรือไม่ยังมณฑลซุเรีย, พวกยูดายก็คิดร้ายต่อท่าน, ท่านจึงเปลี่ยนใจกลับไปหางมณฑลมากะโดเนีย. 4 คนที่ไปยังมณฑลอาเซียกับเปาโลนั้นคือโซปาโตรบุตรของปุโรชาวเมืองเบรอยะ, อะริศตาโคกับเซกุนโดชาวเมืองเธซะโลนิเก, คาโยชาวเมืองเดระเบ, และติโมเธียว, ตุคิโกกับโตรฟิโม ชาวมณฑลอาเซีย. 5 แต่คนเหล่านั้นล่วงหน้าไปคอยพวกเราอยู่ก่อนที่เมืองโตรอา. 6 ครั้นวันรับประทานขนมปังไม่มีเชื้อล่วงไปแล้ว, เราทั้งหลายจึงลงเรือออกจากเมืองฟิลิปปอย, และในวันที่ห้าก็มาถึงพวกนั้นที่เมืองโตรอา และยับยั้งอยู่ที่นั้นเจ็ดวัน เปาโลสั่งสอนช้านานที่เมืองโตรอา 7 ในวันอาทิตย์เมื่อเราทั้งหลายประชุมกันทำพิธีหักขนมปัง, เปาโลก็กล่าวสั่งสอนเขา, เพราะว่าวันรุ่งขึ้นจะลาไปจากเขาแล้ว. ท่านได้กล่าวยืดยาวไปจนเที่ยงคืน. 8 มีตะเกียงหลายดวงในห้องชั้นบนที่เราประชุมกันนั้น. 9 มีชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อยูตุโคนั่งอยู่ที่หน้าต่างง่วงนอนเต็มที, และเมื่อเปาโลสั่งสอนช้านานไปอีก คนนั้นก็โงกพลัดตกจากหน้าต่างชั้นที่สาม เมื่อยกขึ้นก็เห็นว่าตายเสียแล้ว. 10 ฝ่ายเปาโลจึงลงไปคร่อมตัวผู้นั้นกอดไว้ แล้วว่า, “อย่าเป็นทุกข์เลย ด้วยว่าวิญญาณจิตต์ยังอยู่ในตัวเขา.” 11 ครั้นเปาโลขึ้นไปน้องชั้นบนหักขนมปังให้เขารับประทานแล้ว, ก็สั่งสอนต่อไปอีกช้านาน จนสว่างท่านก็ลาเขาไป. 12 คนทั้งหลายจึงพาคนหนุ่มยังเป็นอยู่ไป, และเขาทั้งหลายก็ปลื้มใจยินดีเป็นอันมาก 13 ฝ่ายพวกเราจึงลงเรือแล่นไปยังเมืองอาโซก่อน ตั้งใจว่าจะรับเปาโลที่นั่นด้วยท่านสั่งไว้อย่างนั้น, เพราะท่านหมายจะไปทางบก. 14 ครั้นท่านพบกับเราที่เมืองอาโซ, เราก็รับท่านแล้วก็มายังเมืองมีตุเลน. 15 ครั้นออกจากที่นั่นได้วันหนึ่ง ก็มาถึงเกาะคิโอ วันที่สองก็มาถึงเกาะซาโม และอีกวันหนึ่งก็มาถึงเมืองมีเลโต 16 ด้วยว่าเปาโลได้ตั้งใจว่าจะแล่นเลยเมืองเอเฟโซไป, เพื่อจะไม่ต้องค้างอยู่นานในมณฑลอาเซีย, เพราะถ้าเป็นได้ท่านรีบจะให้ถึงกรุงยะรูซาเลมให้กันวันเทศกาลเพ็นเทคศเต เปาโลกล่าวต่อผู้ปกครองคริสตจักรเอเฟโซ 17 เปาโลจึงใช้คนจากเมืองมีเลโตไปยังเมืองเอเฟโซ ให้เชิญพวกผู้ปกครองในคริสตจักรมา. 18 ครั้นมาแล้วเปาโลจึงกล่าวว่า, “ท่านทั้งหลายย่อมทราบอยู่เองว่า ข้าพเจ้าได้ประพฤติต่อท่านอย่างไรทุกเวลา ตั้งแต่วันแรกเข้ามาในมณฑลอาเซีย. 19 ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติพระเจ้าด้วยความถ่อมใจ. ด้วยน้ำตาไหล, และด้วยถูกการทดลอง ซึ่งได้มาถึงข้าพเจ้าด้วยพวกยูดายคิดทำร้ายต่อข้าพเจ้า 20 และสิ่งหนึ่งสิ่งใดซึ่งเป็นคุณประโยชน์แก่ท่านทั้งหลายข้าพเจ้ามิได้ปิดซ่อนไว้ แต่ได้ชี้แจงให้ท่านเห็น, กับได้สั่งสอนท่านทั้งหลายในที่ประชุมและตามบ้านเรือน. 21 ทั้งเป็นพะยานแก่ชาติยูดายและชาติเฮเลนถึงเรื่องการกลับใจเสียใหม่ฉะเพาะพระเจ้า และความเชื่อในพระเยซูคริสต์เจ้าของเรา. 22 นี่แน่ะ บัดนี้ข้าพเจ้าถูกพระวิญญาณบังคับ จึงจำเป็นจะต้องไปยังกรุงยะรูซาเลม, หาทราบไม่ว่าจะมีเหตุอะไรบังเกิดขึ้นแก่ข้าพเจ้าที่นั่นบ้าง 23 เว้นไว้แต่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเป็นพะยานแก่ข้าพเจ้าในทุกบ้านทุกเมืองว่า เครื่องจำจองและความยากลำบากคอยท่าข้าพเจ้าอยู่. 24 แต่ข้าพเจ้ามิได้ถือว่า ชีวิตของข้าพเจ้าเป็นสิ่งประเสริฐแก่ข้าพเจ้า, ถ้าหากได้กระทำการในหน้าที่ของข้าพเจ้าให้สำเร็จในชีวิตนี้ด้วยความยินดี, และได้กระทำการปรนนิบัติที่ได้รับฉันทะจากพระเยซูเจ้า, คือที่จะเป็นพะยานถึงกิตติคุณซึ่งสำแดงพระคุณของพระเจ้านั้น. 25 นี่แน่ะ บัดนี้ข้าพเจ้าทราบอยู่ว่า ท่านทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้เที่ยวป่าวประกาศแผ่นดินของพระเจ้าในท่ามกลางพวกท่านนั้น จะไม่ได้เห็นหน้าข้าพเจ้าอีก. 26 เหตุฉะนั้นวันนี้ข้าพเจ้ายืนยันต่อท่านทั้งหลายว่า ข้าพเจ้าหมดราคีจากโลหิตของท่านทุกคน. 27 เพราะว่าข้าพเจ้ามิได้ย่อท้อในการกล่าวให้ท่านทั้งหลายฟังถึงเรื่องพระดำริของพระเจ้าทั้งสิ้น. เปาโลเตือนให้เขารักษาฝูงแกะของพระเจ้า 28 เพราะฉะนั้นท่านทั้งหลายจงระวังตัวให้ดี, และจงรักษาฝูงแกะที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทรงตั้งท่านไว้เป็นผู้ดูแล, และเพื่อจะได้บำรุงเลี้ยงคริสตจักรของพระเจ้า, ที่พระองค์ทรงได้ด้วยพระโลหิตของพระองค์เอง. 29 ข้าพเจ้าทราบอยู่ว่า, เมื่อข้าพเจ้าไปแล้วจะมีสุนัขป่าอันร้ายเข้ามาในท่ามกลางท่าน, และจะไม่ละเว้นฝูงแกะไว้เลย 30 จะเกิดมีบางคนในท่ามกลางพวกท่านเองกล่าวเลี่ยงความจริง เพื่อจะชักชวนเหล่าสาวกให้หลงตามเขาไป. 31 เหตุฉะนั้นจงระวังตัวให้ดี. และจำไว้ว่าข้าพเจ้าได้สั่งสอนเตือนสติท่านทุกคนด้วยน้ำตาไหล ทั้งกลางวันกลางคืน ตลอดสามปีมิได้หยุดหย่อน. 32 ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย, บัดนี้ข้าพเจ้ามอบท่านไว้กับพระเจ้าและกับคำแห่งพระคุณของพระองค์, ซึ่งมีฤทธิ์อาจก่อสร้างท่านขึ้นได้, และให้ท่านมีส่วนที่จะได้ด้วยกันกับบรรดาผู้ที่ทรงเลือกตั้งไว้. 33 ข้าพเจ้ามิได้โลภเงินหรือทองหรือเสื้อผ้าของผู้ใด 34 ท่านทั้งหลายทราบว่า มือของข้าพเจ้าเองนี้ได้จัดหาสิ่งที่จำเป็นสำหรับตัวข้าพเจ้ากับคนที่อยู่กับข้าพเจ้านั้น. 35 ข้าพเจ้าได้วางแบบอย่างไว้ให้ท่านทุกสิ่งแล้ว, เห็นว่าควรจะอุสส่าห์ทำการเพื่อจะได้ช่วยคนที่มีกำลังน้อย, และควรจะระลึกถึงคำของพระเยซูเจ้า ซึ่งพระองค์ตรัสว่า. ‘การให้เป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ.’ ” 36 ครั้นเปาโลกล่าวอย่างนั้นแล้วจึงคุกเข่าลงอธิษฐานกับคนเหล่านั้น. 37 เขาทั้งหลายจึงร้องให้มากมาย, และก้มหน้าลงที่คอของเปาโล, แล้วจุบท่าน. 38 เขาเป็นทุกข์มากที่สุดเพราะเหตุถ้อยคำที่เปาโลกล่าวว่า เขาจะไม่เห็นหน้าท่านอีก, แล้วเขาก็ไปส่งเปาโลที่เรือ |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society