กิจการ 10 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940โกระเนเลียวได้เห็นศุภนิมิตต์ 1 ยังมีชายคนหนึ่งชื่อโกระเนเลียว, อาศัยอยู่ในเมืองกายซาไรอา, เป็นนายร้อยอยู่ในกองทหารที่เรียกว่า กองอิตาเลีย. 2 ทั้งท่านและครอบครัวของท่านเป็นคนเกรงกลัวพระเจ้า ท่านเคยให้ทานแก่คนเป็นอันมาก, และอธิษฐานพระเจ้าเสมอ 3 นายร้อยนั้นได้เห็นศุภนิมิตต์ประจักษ์ เวลาประมาณสามนาฬิกาหลังเที่ยง, คือเห็นทูตองค์หนึ่งของพระเจ้าเข้ามาหาตนแล้วกล่าวว่า, “โกระเนเลียวเอ๋ย.” 4 แต่เมื่อโกระเนเลียวเขม้นดูทูตองค์นั้นท่านก็ตกใจกลัว, จึงถามว่า, “นี่เป็นประการใด, พระองค์เจ้าข้า?” ทูตสวรรค์จึงตอบท่านว่า, “คำอธิษฐานและทานของท่านนั้นได้ขึ้นไปเป็นเหตุให้พระเจ้าระลึกถึงแล้ว. 5 บัดนี้จงใช้คนไปยังเมืองยบเป เชิญซีโมนที่เรียกว่าเปโตรมา. 6 เปโตรนั้นอาศัยอยู่กับคนหนึ่งชื่อซีโมนเป็นช่างฟอกหนัง ตึกของเขาอยู่ริมฝั่งทะเล.” 7 ครั้นทูตสวรรค์ที่ได้พูดกับโกระเนเลียวไปแล้ว, ท่านได้เรียกคนใช้สองคนกับทหารคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้เกรงกลัวพระเจ้า ที่เคยปรนนิบัติท่านเสมอ, 8 และเมื่อโกระเนเลียวได้เล่าเหตุการณ์ทั้งปวงให้คนเหล่านั้นฟังแล้ว, ท่านจึงใช้เขาไปยังเมืองยบเป 9 ครั้นเวลารุ่งขึ้นคนเหล่านั้นกำลังเดินทางไปใกล้เมืองยบเปแล้ว, ประมาณเวลาเที่ยง เปโตรก็ขึ้นไปบนหลังคาตึกเพื่อจะอธิษฐาน 10 ก็หิวอยากจะรับประทานอาหาร แต่ในระหว่างเขายังจัดแจงอยู่เปโตรได้เคลิ้มไป, 11 และได้เห็นท้องฟ้าแหวกออกเป็นช่อง, และมีภาชนะอันหนึ่งเหมือนผ้านอนผืนใหญ่เลื่อนลอยลงมาผูกติดกันทั้งสี่มุม. 12 ในสิ่งนั้นมีสัตว์จัตุบาท และสัตว์เลื้อยคลานทุกอย่างที่อยู่บนแผ่นดิน, และนกที่บินในอากาศ. 13 มีพระสุรเสียงมาว่าแก่ท่านว่า, “เปโตรเอ๋ย, จงลุกขึ้นฆ่ากินเถิด.” 14 ฝ่ายเปโตรจึงทูลว่า, “หามิได้, พระองค์เจ้าข้าเพราะว่าสิ่งซึ่งเป็นของห้ามหรือของมลทินข้าพเจ้าไม่เคยได้รับประทานเลย.” 15 แล้วจึงมีพระสุรเสียงเป็นครั้งที่สองว่าแก่ท่านว่า, “ซึ่งพระเจ้าได้ทรงชำระแล้วอย่าว่าเป็นของห้าม.” 16 ได้เห็นอย่างนั้นถึงสามครั้ง. แล้วภาชนะนั้นก็ลอยขึ้นไม่บนอากาศ เปโตรได้เห็นศุภนิมิตต์ 17 เมื่อเปโตรยังคิดสงสัยเรื่องศุภนิมิตต์ซึ่งได้เห็นนั้นว่าหมายความอย่างไร, นี่แน่ะ คนที่โกระเนเลียวได้ใช้ไปนั้น, เมื่อสืบหาพบตึกของซีโมนแล้วก็มายืนอยู่หน้าประตู, 18 และร้องถามว่า ซีโมนที่เรียกว่าเปโตรอยู่ที่นั่นหรือไม่. 19 เมื่อเปโตรยังนึกถึงนิมิตต์นั้นพระวิญญาณก็ตรัสแก่ท่านว่า, “นี่แน่ะ มีสามคนมาหาท่าน 20 จงลุกขึ้นลงไปข้างล่างและไปกับเขาเถิด อย่าสงสัยเลย เพราะว่าเราได้ใช้เขามา.” 21 เปโตรจึงลงไปหาคนเหล่านั้นกล่าวว่า. “นี่แน่ะ ข้าพเจ้าเป็นคนที่ท่านมาหานั้น ท่านมาธุระอะไร?” 22 เขาจึงตอบว่า. “นายร้อยโกระเนเลียวผู้เป็นคนชอบธรรมและเกรงกลัวพระเจ้า, และมีชื่อเสียงดี, ที่พวกยูดายทั้งปวงนับถือ, โกระเนเลียวผู้นั้นได้รับคำเตือนจากทูตสวรรค์ผู้บริสุทธิ์ ให้มาเชิญท่านไปที่บ้านเพื่อจะฟังถ้อยคำของท่าน.” 23 เปโตรจึงเชิญเขาให้เข้ามาหยุดพักอยู่ที่นั่น เมื่อเวลารุ่งขึ้นเปโตรก็ไปกับเขา, และพวกพี่น้องบางคนที่เมืองยบเปก็ไปด้วย. เปโตรถามท่านว่า เชิญมาเพื่อประสงค์อะไร 24 ล่วงมาอีกวันหนึ่งเขาก็ไม่ถึงเมืองกายซาไรอา, โกระเนเลียวก็กำลังคอยรับรองอยู่, และได้เชิญญาติพี่น้องกบเพื่อนสนิทของตนให้มาประชุมกันแล้ว. 25 ครั้นเปโตรเข้าไป, โกระเนเลียวก็ต้อนรับเปโตรและหมอบที่เท้ากราบไหว้ท่าน. 26 ฝ่ายเปโตรจึงจับตัวโกระเนเลียวให้ลุกขึ้น และกล่าวว่า, “จงยืนขึ้นเถิด ข้าพเจ้าเองก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน.” 27 เมื่อกำลังสนทนากันอยู่, เปโตรจึงเข้าไปแลเห็นคนเป็นอันมากมาพร้อมกัน, 28 จึงกล่าวแก่คนเหล่านั้นว่า, “ท่านทั้งหลายทราบแล้วว่า คนชาติยูดายนั้นจะคบค้าสมาคมกับคนต่างชาติก็เป็นที่ห้าม แต่พระเจ้าได้ทรงสำแดงแก่ข้าพเจ้าแล้วว่า ไม่ควรเรียกคนหนึ่งคนใดว่าเป็นที่ห้ามหรือเป็นมลทิน. 29 เหตุฉะนั้นเมื่อคนใช้ไปเชิญข้าพเจ้า, ข้าพเจ้าก็มาโดยมิได้ขัดประการใด ข้าพเจ้าขอถามว่า ท่านได้เชิญข้าพเจ้ามาเพื่อประสงค์อะไร.” 30 โกระเนเลียวจึงตอบว่า, “สี่วันมาแล้วข้าพเจ้าได้อธิษฐานอยู่ในตึกของข้าพเจ้าราวเวลานี้ คือประมาณสามนาฬิกาหลังเที่ยง, ก็มีคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหนาข้าพเจ้าสวมเสื้อมันระยับ. 31 ผู้นั้นได้กล่าวว่า, ‘โกระเนเลียวเอ๋ย, คำอธิษฐานของท่านทรงสดับฟังแล้ว, และทานของท่านนั้นก็เป็นเหตุให้พระเจ้าระลึกถึง. 32 เหตุฉะนั้นจงใช้คนไปย้งเมืองยบเป เชิญซีโมนที่เรียกว่าเปโตรมา ท่านอาศัยอยู่ในตึกของซีโมนช่างฟอกหนังที่ฝั่งทะเล.’ 33 ข้าพเจ้าจึงใช้คนไปเชิญท่านมากันทีซึ่งท่านได้มานั้นก็ดีอยู่แล้ว, บัดนี้ข้าพเจ้าทั้งหลายอยู่พร้อมกันต่อพระเนตรพระเจ้า เพื่อจะฟังสิ่งสารพัตรซึ่งพระองค์ได้ตรัสสั่งไว้แก่ท่าน.” 34 ฝ่ายเปโตรจึงออกปากกล่าวว่า, “ข้าพเจ้าเห็นจริงแล้วว่า พระเจ้าไม่ทรงเลือกหน้าผู้ใด 35 แต่ชาวชนในประเทศใดๆ ที่เกรงกลัวพระองค์และประพฤติในทางชอบธรรม ก็เป็นที่ชอบพระทัยพระองค์. 36 เรื่องนั้นพระองค์ได้ทรงฝากไว้กับพวกยิศราเอล, คือการประกาศข่าวความสุขโดยพระเยซูคริสต์, ผู้เป็นพระเจ้าของคนทั้งปวง. 37 เรื่องนั้นท่านทั้งหลายก็รู้, คือเรื่องที่ได้เล่ากันตั้งต้นที่มณฑลฆาลิลายไปจนตลอดทั่วมณฑลยูดาย เมื่อภายหลังบัพติศมาที่โยฮันได้ประกาศนั้น 38 คือเรื่องพระเยซูชาวนาซาเร็ธ, ว่าพระเจ้าได้ทรงชะโลมพระองค์โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ และโดยฤทธานุภาพอย่างไร, และพระเยซูได้เสด็จไปกระทำคุณและรักษาบรรดาคนซึ่งถูกมารเบียดเบียฬ. เพราะว่าพระเจ้าได้ทรงสถิตอยู่กับพระองค์. 39 เราทั้งหลายเป็นพะยานถึงกิจการทั้งปวงซึ่งพระองค์ได้ทรงกระทำ ทั้งในแว่นแคว้นมณฑลยูดายและในกรุงยะรูซาเลม. พระองค์นั้นเขาได้ฆ่าโดยแขวนไว้ที่ต้นไม้. 40 ในวันที่สามพระเจ้าได้ทรงบันดาลให้พระองค์นั้นคืนพระชนม์และให้ปรากฏแจ้ง. 41 ใช่ว่าปรากฏแก่คนทั้วไป, แต่ปรากฏแก่เหล่าพะยานซึ่งพระเจ้าได้ทรงเลือกไว้แต่ก่อน, คือปรากฏแก่เราทั้งหลายที่ได้รับประทานและดื่มกับพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงคืนพระชนม์แล้ว. 42 พระองค์นั้นได้ทรงสั่งเราทั้งหลายให้ประกาศแก่คนทั้งปวง และเป็นพะยานว่า พระเจ้าได้ทรงเจิมพระองค์ไว้เป็นผู้พิพากษาคนทั้งหลายทั้งคนเป็นและคนตาย. 43 ศาสดาพยากรณ์ทั้งหลายย่อมเป็นพะยานถึงพระองค์นั้นว่า, ทุกๆ คนที่เชื่อถือในพระองค์นั้น พระเจ้าจะทรงยกความผิดบาปของเขา เพราะพระนามของพระองค์นั้น.” พระวิญญาณได้ลงมาสวมทับคนต่างชาติ 44 เมื่อเปโตรกำลังกล่าวคำเหล่านั้น, พระวิญญาณบริสุทธิ์จึงเสด็จลงมาสถิตอยู่กับคนทั้งปวงที่ฟังนั้น. 45 ฝ่ายพวกที่ได้รับพิธีสุนัดซึ่งเชื่อถือในพระเยซูเจ้า, คือคนทุกคนที่มาด้วยกันกับเปโตร, ก็ประหลาดใจ, เพราะว่าพระเจ้าได้ทรงประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้ลงมาสวมทับคนต่างชาติด้วย. 46 เหตุว่าเขาได้ยินคนเหล่านั้นพูดภาษาต่างๆ และยกยอสรรเสริญพระเจ้า. เปโตรจึงย้อนถามว่า. 47 “มีผู้ใดหรืออาจจะห้ามคนเหล่านี้ซึ่งได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์เหมือนกับเรามิให้เขารับบัพติศมาด้วยน้ำ?” 48 เปโตรจึงสั่งให้เขารับบัพติศมาในพระนามของพระเยซูคริสต์. และเขาทั้งหลายได้ขอให้เปโตรยับยั้งอยู่กับเขาอีกสองสามวัน |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society