2ซามูเอล 5 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ขณะนั้นบรรดาตระกูลยิศราเอลมาเฝ้าดาวิดที่เมืองเฮ็บโรนทูลว่า, ข้าพเจ้าทั้งหลายกับท่านเป็นเชื้อวงศ์อันเดียวกัน. 2 แม้ว่าคราวก่อนเมื่อซาอูลยังเป็นกษัตริย์ปกครองข้าพเจ้าทั้งหลาย, ท่านเป็นผู้นำพวกยิศราเอลเข้าออก, และพระยะโฮวาทรงตรัสแก่ท่านว่า, ท่านจะเลี้ยงดูยิศราเอลพลไพร่ของเรา, และจะเป็นหัวหน้าพวกยิศราเอล. 3 บรรดาผู้เฒ่าแก่ของชาวชนยิศราเอลจึงมาเฝ้ากษัตริย์ที่เมืองเฮ็บโรน, กษัตริย์ดาวิดได้ทรงกระทำสัญญากับเขาฉะเพาะพระยะโฮวาที่เมืองนั้น, แล้วเขาพากันชะโลมดาวิดตั้งขึ้นเป็นกษัตริย์ชาวชนยิศราเอล. 4 ขณะขึ้นเสวยราชดาวิดมีพระชนม์สามสิบพรรษา. ภายหลังทรงดำรงอยู่ในราชสมบัติต่อไปอีกสี่สิบพรรษา. 5 ที่กรุงเฮ็บโรนท่านทรงครอบครองตระกูลยูดาเจ็ดพรรษากับหกเดือน, และที่กรุงยะรูซาเล็มทรงครอบครองตระกูลยูดากับประเทศยิศราเอลทั้งหมดอีกสามสิบสามพรรษา 6 ฝ่ายกษัตริย์, และคนทั้งหลายของท่านก็ขึ้นไปยังกรุงยะรูซาเล็มเพื่อจะต่อสู้พวกยะบูซีชาวประเทศนั้น, พวกเหล่านั้นกล่าวแก่ดาวิดว่า, จะเข้ามาที่นี่ไม่ได้เว้นแต่ท่านจะขับไล่คนตาบอดคนง่อยไปเสียก่อน, พวกนั้นสำคัญว่า, ดาวิดจะเข้าไปที่นี่ไม่ได้. 7 ถึงกระนั้นดาวิดยังตีเอาป้อมซีโอนอันแน่นหนานั้นได้, นี่แหละเป็นเมืองของดาวิด. 8 วันนั้นดาวิดมีพระราชดำรัสว่า, ผู้ใดจะเข้าตีพวกยะบูซี, ก็ให้ผู้นั้นไปทางน้ำไหลต่อสู้คนง่อยคนตาบอดซึ่งเราเบื่อหน่ายเกลียดชังนั้น, เพราะเหตุนั้นจึงมีคำสุภาษิตกล่าวว่า, มีคนตาบอดคนง่อยที่เข้าเรือนไม่ได้. 9 ดาวิดประทับอยู่ในที่แน่นหนานั้น, แล้วตั้งชื่อเมืองนั้นว่า, เมืองดาวิดแล้วได้โปรดให้จัดการโยธาโดยรอบตั้งแต่ตำบลมิโลเข้ามา. 10 ดาวิดก็ทรงพระเจริญยิ่งๆ ขึ้นไปเสมอ, เพราะพระยะโฮวาพระเจ้าของพลโยธาทรงสถิตอยู่กับท่าน 11 ฮีรามพระเจ้าแผ่นดินตุโรทรงใช้ราชทูตมาเฝ้าดาวิด, และได้ส่งไม้สนช่างไม้กับช่างสลักหินมาด้วย, ช่างเหล่านั้นได้ก่อสร้างพระราชมณเฑียรถวายดาวิดหลังหนึ่ง. 12 ดาวิดทรงทราบว่าพระยะโฮวาทรงตั้งท่านไว้เป็นกษัตริย์ปกครองประเทศยิศราเอล, โดยทรงพระกรุณาแก่พวกยิศราเอลพลไพร่ของพระองค์จึงได้ทรงบำรุงแผ่นดินของดาวิดให้เจริญขึ้น 13 ครั้นดาวิดเสด็จกลับจากเมืองเฮ็บโรนแล้ว, ยังทรงรับหญิงชาวยะรูซาเลมเป็นสนมและมเหษีอีก, จนมีพระราชโอรสและธิดาหลายองค์. 14 พระราชโอรสของพระองค์ซึ่งประสูติในกรุงยะรูซาเลมทรงพระนามว่า, ซามัว, โซบับ, นาธาน. ซะโลโม, 15 ยิฮาร์, อะลีซัว, เนะเฟฆ, ยาเพีย, 16 อะลีซามา, เอะละยาดา, และอะลีฟาเล็ธ 17 เมื่อพวกฟะลิศตีมได้ยินข่าวว่าเขาชะโลมดาวิดเป็นกษัตริย์ปกครองประเทศยิศราเอลแล้ว, จึงยกขึ้นมาเพื่อจะต่อสู้ท่าน, พอดาวิดทรงทราบก็เสด็จลงไปยังป้อมแน่นหนานั้น. 18 พวกฟะลิศตีมเข้ามาแล้วก็แยกกันไปณที่หว่างเขาชื่อระฟาอิม. 19 ดาวิดจึงทูลถามพระยะโฮวาว่า, ควรที่ข้าพเจ้าจะขึ้นไปต่อสู้พวกฟะลิศตีมหรือไม่? พระองค์จะทรงมอบเขาไว้ในมือข้าพเจ้าหรือ? พระยะโฮวาทรงตรัสตอบดาวิดว่า, “จงขึ้นไปเถิด, ด้วยเราจะมอบพวกฟะลิศตีมไว้ในมือของเจ้าเป็นแน่. 20 ดาวิดก็ไปยังบาละพะราซิม, ฆ่าฟันพวกนั้นที่ตำบลนั้น, แล้วมีพระราชดำรัสว่า, พระยะโฮวาทรงทำลายข้าศึกต่อหน้าเราดุจสายน้ำอันเชี่ยว. เหตุฉะนั้นท่านจึงตั้งชื่อตำบลนั้นว่า, บาละพะราซิม. 21 พวกเหล่านั้นทิ้งรูปเคารพของตนไว้ที่นั่น, ดาวิดกับคนของท่านก็ได้เผาเสีย 22 กองทัพพวกฟะลิศตีมยกขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง, แล้วก็แยกกันไปณที่หว่างเขาชื่อระฟาอิม. 23 เมื่อดาวิดทูลถามพระเจ้า, พระยะโฮวาทรงตรัสห้ามว่า, “อย่าตรงขึ้นไป, จงอ้อมไปข้างหลัง, แอบเข้าหาเขาตรงต้นหม่อน.” 24 พอเจ้าได้ยินเสียงดำเนินไปที่ยอดต้นหม่อนจงรีบเร่งเถิด, ด้วยในทันใดนั้นยะโฮวาจะทรงนำหน้าเจ้าไปตีกองทัพฟะลิศตีม.” 25 ดาวิดกระทำตามพระราชดำรัสของพระยะโฮวาจึงได้ฆ่าฟันพวกฟะลิศตีม, ตั้งแต่ตำบลเฆบา, จนเข้าประตูเมืองฆาเซร์ |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society