2ซามูเอล 23 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 เหล่านี้เป็นคำสุภาษิตที่สุดปลายของดาวิด. ถ้อยคำของดาวิดบุตรยิซัย, เป็นคำของผู้ที่ทรงโปรดยกตั้งขึ้นให้ได้ยศสูง, เป็นผู้ต้องชะโลมโดยพระเจ้าของยาโคบ, เป็นผู้แต่งบทเพลงอันไพเราะในพวกยิศราเอล, ได้ทรงกล่าวว่า, พระวิญญาณของพระยะโฮวาทรงตรัสแก่ข้าพเจ้า, และพระดำรัสของพระองค์อยู่ที่ลิ้นของข้าพเจ้า. พระเจ้าของพวกยิศราเอลทรงตรัสว่าศิลาของพวกยิศราเอลตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า, ผู้ที่ครอบครองประชาชนต้องมีความยุตติธรรม, ครอบครองด้วยความนับถือเกรงกลัวพระเจ้า. เป็นดุจแสงอาทิตย์ที่ขึ้นเวลาเช้าตรู่, เวลาเช้าก็ปราศจากเมฆ, เมื่อหญ้าสดงอกขึ้นจากดิน, ด้วยแดดก็จัดในเวลาฝนหยุดแล้วนั้น. พงศ์พันธุ์ของข้าพเจ้าเป็นเช่นนั้นต่อพระเจ้ามิใช่หรือ; ด้วยพระองค์ทรงตั้งสัญญาไมตรีอันถาวรกับข้าพเจ้า, ให้เตรียมและรักษาไว้ทุกประการ, ซึ่งเป็นความรอดและความปรารถนาของข้าพเจ้าทั้งสิ้น, แม้พระองค์ (ยัง) ไม่บันดาลให้เจริญขึ้น. แต่บรรดาคนชั่วเป็นเหมือนเสี้ยนหนามซึ่งต้องทิ้งเสีย, เพราะหยิบด้วยมือไม่ได้: แต่ผู้ที่ต้องหนามเหล่านั้น, ต้องใช้เครื่องเหล็กและด้ามหอกด้วย; เผาเสียให้หมด ณ ที่อยู่นั้น ชื่อเหล่านี้เป็นชื่อทหารฉกรรจ์ของดาวิด, คือยาซาบะอามตระกูลธัคโมนี, เป็นหัวหน้าสามสิบนายผู้นั้นคืออะดีโนชาวเอศนี (ถือหอก) ต่อสู้แทงฆ่าแปดร้อยคนครั้งเดียว รองคนนั้นมาคือเอละอาซารบุตรโดโดบุตรอะโฮฮี, เป็นผู้หนึ่งในพวกกล้าหาญสามนายที่อยู่กับดาวิด, ขณะเขาท้าทายกองทัพฟะลิศตีม, ซึ่งมาประชุมกันทำศึกที่นั้น, แต่กองยิศราเอลขึ้นไปเสียแล้ว. ท่านลุกขึ้นฆ่าฟันชาวฟะลิศตีมจนมือเมื่อยเป็นเหน็บติดอยู่กับด้ามกระบี่, ในวันนั้นพระยะโฮวาทรงช่วยให้เป็นการชัยชะนะใหญ่; และพลโยธาก็กลับมาเบื้องหลังท่านเพื่อเก็บเอาสิ่งของไป รองผู้นั้นมาคือซามาบุตรอาเฆชาวฮารารี. และกองฟะลิศตีมมาชุมนุมกันหาสะเบียงที่ไร่นาถั่ว: แล้วพลทหารหนีพวกฟะลิศตีมไป. แต่ส่วนท่านยืนอยู่ท่ามกลางทุ่งนานั้นและป้องกันไว้กับได้ฆ่าฟันชาวฟะลิศตีมด้วย, และพระยะโฮวาทรงช่วยให้มีชัยชะนะใหญ่ นายทหารสามนายในพวกสามสิบนั้น, ได้ลงไปหาดาวิดในฤดูเกี่ยว, ที่ถ้ำชื่ออะดูลาม: และกองทัพฟะลิศตีมตั้งค่ายอยู่ที่หว่างเขาชื่อระฟาอิม. ขณะนั้นดาวิดอาศัยอยู่ที่ป้อม, และกองฟะลิศตีมอยู่ที่เบธเลเฮ็ม. ดาวิดมีความเร่าร้อนมาก, จึงทรงตรัสว่า, ใครจะส่งน้ำจากบ่อริมประตูเมืองเบธเลเฮ็มมาให้เราดื่ม! ส่วนคนกล้าหาญสามนายนั้นก็ลุกแหวกกองทัพฟะลิศตีมเข้าไปตักน้ำที่บ่อริมประตูเมืองเบธเลเฮ็มมาถวายดาวิด, ฝ่ายท่านไม่เสวย, แต่ทรงเทออกบูชาถวายพระยะโฮวา. แล้วทรงตรัสว่า, ขอพระยะโฮวาทรงห้ามปรามไว้, อย่าให้ข้าพเจ้ากระทำสิ่งนี้เลย: (คือดื่ม) โลหิตของผู้ที่สละชีวิตของตนในภัยอันตราย? เพราะเหตุนั้นท่านจึงไม่พอพระทัยเสวย. ทั้งนี้เป็นการที่ผู้กล้าหาญสามคนนั้นได้กระทำ ส่วนอะบีซัยน้องโยอาบบุตรซะรูยาเป็นหัวหน้าในหมู่สามนายนั้น. ท่านถือหอกแทงคนตายถึงสามร้อยคน, จึงได้มีชื่อเสียงโด่งดังในสามนายพวกนั้น. ในพวกนายทั้งสามท่านนั้นเป็นผู้มีชื่อเสียงดังมิใช่หรือ? จึงได้เป็นหัวหน้าพวกนั้น: แต่ยศไม่เสมอสามนายที่เป็นพวกเอกนั้น บะนายาบุตรยะโฮยาดาเป็นบุตรคนกล้าหาญ, ชาวเมืองคับเซล, เคยทำการที่มีชื่อเสียงหลายอย่าง, ท่านได้ฆ่าบุตรทั้งสองของอารีเอลชาวโมอาบตาย: กับได้ลงไปฆ่าสิงห์โตในถ้ำในวันที่มีหิมะ: ท่านได้ทำชาวอายฆุบโตผู้หนึ่งรูปร่างใหญ่หน้าดูทั้งถือหอก, แต่ท่านถือไม้เท้าลงไปต่อสู้กับคนนั้นชิงเอาหอกจากมือได้, ก็เลยฆ่าเสียด้วยหอกของเขาเอง. บะนายาบุตรยะโฮยาดา, ได้กระทำการเหล่านี้, จึงได้มีชื่อเสียงในพวกกล้าหาญสามนายนั้น. ท่านมียศยิ่งกว่าพวกสิบคนนั้น. แต่ยังไม่เสมอเท่ากับสามคนที่เป็นพวกเอกนั้น. ดาวิดจึงตั้งให้เป็นนายกองทหารรักษาพระองค์ อะซาเฮลน้องโยอาบเป็นคนหนึ่งในพวกสามสิบนั้น; เอลฮานานบุตรโดโดชาวเบธเลเฮ็ม. ซามาชาวฮาโรด, อะลีคาชาวฮาโรด, เฮเลศชาวพะเลธ, อีราบุตรอีเคธชาวธะโคอา, อะบีเอเซอร์ชาวอะนาโธธ, มะบูนัยชาวฮูซา, ซะละโมนตระกูลอะโฮฮา, มาฮะรายชาวนะโตฟา, เฮเล็บบุตรบาอะนา, ชาวนะโตฟา, อิธัยบุตรรีบัยชาวฆิบอา, เขตต์ตระกูลเบ็นยามิน, บะนายาชาวพีราโธน, อีดัยมาจากลำธารตำบลฆาอัศ, อะบีอะละโบนชาวป่าดอน, อัศมาเวธชาวบาระฮูม, เอลยัคบา, ชาวซาอัลโบน, เหล่าบุตรยาเซน, โยนาธาน, ซามาชาวฮารารี, อะรีอามบุตรซารารชาวอาราร, อะลีเฟเล็ธบุตรอะฮัศบัย, บุตรชาวมาอะคา, เอลีอามบุตรอะฮีโธเฟลชาวฆีโล, เฮศโรชาวคารเมล, พาอะรัยชาวอะราบ, ยีฆาลบุตรนาธานชาวโซบา, บานีตระกูลฆาด. เซเล็คชาติอำโมน, นาฮะรัยชาวเบโรธเป็นผู้ถือเครื่องรบของโยอาบบุตรซะรูยา, อีราชาวยิธรา, ฆาเรบชาวยิธรา, อูรียาชาติเฮธ; รวมทั้งหมดสามสิบเจ็ดคน 2 พระวิญญาณของพระยะโฮวาทรงตรัสแก่ข้าพเจ้า, และพระดำรัสของพระองค์อยู่ที่ลิ้นของข้าพเจ้า. 3 พระเจ้าของพวกยิศราเอลทรงตรัสว่าศิลาของพวกยิศราเอลตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า, ผู้ที่ครอบครองประชาชนต้องมีความยุตติธรรม, ครอบครองด้วยความนับถือเกรงกลัวพระเจ้า. 4 เป็นดุจแสงอาทิตย์ที่ขึ้นเวลาเช้าตรู่, เวลาเช้าก็ปราศจากเมฆ, เมื่อหญ้าสดงอกขึ้นจากดิน, ด้วยแดดก็จัดในเวลาฝนหยุดแล้วนั้น. 5 พงศ์พันธุ์ของข้าพเจ้าเป็นเช่นนั้นต่อพระเจ้ามิใช่หรือ; ด้วยพระองค์ทรงตั้งสัญญาไมตรีอันถาวรกับข้าพเจ้า, ให้เตรียมและรักษาไว้ทุกประการ, ซึ่งเป็นความรอดและความปรารถนาของข้าพเจ้าทั้งสิ้น, แม้พระองค์ (ยัง) ไม่บันดาลให้เจริญขึ้น. 6 แต่บรรดาคนชั่วเป็นเหมือนเสี้ยนหนามซึ่งต้องทิ้งเสีย, เพราะหยิบด้วยมือไม่ได้: 7 แต่ผู้ที่ต้องหนามเหล่านั้น, ต้องใช้เครื่องเหล็กและด้ามหอกด้วย; เผาเสียให้หมด ณ ที่อยู่นั้น 8 ชื่อเหล่านี้เป็นชื่อทหารฉกรรจ์ของดาวิด, คือยาซาบะอามตระกูลธัคโมนี, เป็นหัวหน้าสามสิบนายผู้นั้นคืออะดีโนชาวเอศนี (ถือหอก) ต่อสู้แทงฆ่าแปดร้อยคนครั้งเดียว 9 รองคนนั้นมาคือเอละอาซารบุตรโดโดบุตรอะโฮฮี, เป็นผู้หนึ่งในพวกกล้าหาญสามนายที่อยู่กับดาวิด, ขณะเขาท้าทายกองทัพฟะลิศตีม, ซึ่งมาประชุมกันทำศึกที่นั้น, แต่กองยิศราเอลขึ้นไปเสียแล้ว. 10 ท่านลุกขึ้นฆ่าฟันชาวฟะลิศตีมจนมือเมื่อยเป็นเหน็บติดอยู่กับด้ามกระบี่, ในวันนั้นพระยะโฮวาทรงช่วยให้เป็นการชัยชะนะใหญ่; และพลโยธาก็กลับมาเบื้องหลังท่านเพื่อเก็บเอาสิ่งของไป 11 รองผู้นั้นมาคือซามาบุตรอาเฆชาวฮารารี. และกองฟะลิศตีมมาชุมนุมกันหาสะเบียงที่ไร่นาถั่ว: แล้วพลทหารหนีพวกฟะลิศตีมไป. 12 แต่ส่วนท่านยืนอยู่ท่ามกลางทุ่งนานั้นและป้องกันไว้กับได้ฆ่าฟันชาวฟะลิศตีมด้วย, และพระยะโฮวาทรงช่วยให้มีชัยชะนะใหญ่ 13 นายทหารสามนายในพวกสามสิบนั้น, ได้ลงไปหาดาวิดในฤดูเกี่ยว, ที่ถ้ำชื่ออะดูลาม: และกองทัพฟะลิศตีมตั้งค่ายอยู่ที่หว่างเขาชื่อระฟาอิม. 14 ขณะนั้นดาวิดอาศัยอยู่ที่ป้อม, และกองฟะลิศตีมอยู่ที่เบธเลเฮ็ม. 15 ดาวิดมีความเร่าร้อนมาก, จึงทรงตรัสว่า, ใครจะส่งน้ำจากบ่อริมประตูเมืองเบธเลเฮ็มมาให้เราดื่ม! 16 ส่วนคนกล้าหาญสามนายนั้นก็ลุกแหวกกองทัพฟะลิศตีมเข้าไปตักน้ำที่บ่อริมประตูเมืองเบธเลเฮ็มมาถวายดาวิด, ฝ่ายท่านไม่เสวย, แต่ทรงเทออกบูชาถวายพระยะโฮวา. 17 แล้วทรงตรัสว่า, ขอพระยะโฮวาทรงห้ามปรามไว้, อย่าให้ข้าพเจ้ากระทำสิ่งนี้เลย: (คือดื่ม) โลหิตของผู้ที่สละชีวิตของตนในภัยอันตราย? เพราะเหตุนั้นท่านจึงไม่พอพระทัยเสวย. ทั้งนี้เป็นการที่ผู้กล้าหาญสามคนนั้นได้กระทำ 18 ส่วนอะบีซัยน้องโยอาบบุตรซะรูยาเป็นหัวหน้าในหมู่สามนายนั้น. ท่านถือหอกแทงคนตายถึงสามร้อยคน, จึงได้มีชื่อเสียงโด่งดังในสามนายพวกนั้น. 19 ในพวกนายทั้งสามท่านนั้นเป็นผู้มีชื่อเสียงดังมิใช่หรือ? จึงได้เป็นหัวหน้าพวกนั้น: แต่ยศไม่เสมอสามนายที่เป็นพวกเอกนั้น 20 บะนายาบุตรยะโฮยาดาเป็นบุตรคนกล้าหาญ, ชาวเมืองคับเซล, เคยทำการที่มีชื่อเสียงหลายอย่าง, ท่านได้ฆ่าบุตรทั้งสองของอารีเอลชาวโมอาบตาย: กับได้ลงไปฆ่าสิงห์โตในถ้ำในวันที่มีหิมะ: 21 ท่านได้ทำชาวอายฆุบโตผู้หนึ่งรูปร่างใหญ่หน้าดูทั้งถือหอก, แต่ท่านถือไม้เท้าลงไปต่อสู้กับคนนั้นชิงเอาหอกจากมือได้, ก็เลยฆ่าเสียด้วยหอกของเขาเอง. 22 บะนายาบุตรยะโฮยาดา, ได้กระทำการเหล่านี้, จึงได้มีชื่อเสียงในพวกกล้าหาญสามนายนั้น. 23 ท่านมียศยิ่งกว่าพวกสิบคนนั้น. แต่ยังไม่เสมอเท่ากับสามคนที่เป็นพวกเอกนั้น. ดาวิดจึงตั้งให้เป็นนายกองทหารรักษาพระองค์ 24 อะซาเฮลน้องโยอาบเป็นคนหนึ่งในพวกสามสิบนั้น; เอลฮานานบุตรโดโดชาวเบธเลเฮ็ม. 25 ซามาชาวฮาโรด, อะลีคาชาวฮาโรด, 26 เฮเลศชาวพะเลธ, อีราบุตรอีเคธชาวธะโคอา, 27 อะบีเอเซอร์ชาวอะนาโธธ, มะบูนัยชาวฮูซา, 28 ซะละโมนตระกูลอะโฮฮา, มาฮะรายชาวนะโตฟา, 29 เฮเล็บบุตรบาอะนา, ชาวนะโตฟา, อิธัยบุตรรีบัยชาวฆิบอา, เขตต์ตระกูลเบ็นยามิน, 30 บะนายาชาวพีราโธน, อีดัยมาจากลำธารตำบลฆาอัศ, 31 อะบีอะละโบนชาวป่าดอน, อัศมาเวธชาวบาระฮูม, 32 เอลยัคบา, ชาวซาอัลโบน, เหล่าบุตรยาเซน, โยนาธาน, 33 ซามาชาวฮารารี, อะรีอามบุตรซารารชาวอาราร, 34 อะลีเฟเล็ธบุตรอะฮัศบัย, บุตรชาวมาอะคา, เอลีอามบุตรอะฮีโธเฟลชาวฆีโล, 35 เฮศโรชาวคารเมล, พาอะรัยชาวอะราบ, 36 ยีฆาลบุตรนาธานชาวโซบา, บานีตระกูลฆาด. 37 เซเล็คชาติอำโมน, นาฮะรัยชาวเบโรธเป็นผู้ถือเครื่องรบของโยอาบบุตรซะรูยา, 38 อีราชาวยิธรา, ฆาเรบชาวยิธรา, 39 อูรียาชาติเฮธ; รวมทั้งหมดสามสิบเจ็ดคน |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society