2ซามูเอล 22 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ขณะพระยะโฮวาทรงช่วยดาวิดให้พ้นมือบรรดาศัตรู, พ้นมือซาอูล, ท่านก็กล่าวคำเพลงนี้ทูลพระยะโฮวาว่า 2 พระยะโฮวาเป็นศิลา, เป็นป้อม, และเป็นผู้ช่วยข้าพเจ้าให้รอด; 3 เป็นพระเจ้าของข้าพเจ้าและศิลาของข้าพเจ้า, ข้าพเจ้าจะพึ่งในพระองค์, เป็นโล่ห์ของข้าพเจ้า, และเขาแห่งความรอด, และหอรบอันสูงและเป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า, พระองค์ผู้ช่วยให้รอดได้ทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากผู้ทำร้าย. 4 ข้าพเจ้าจะร้องทูลพระยะโฮวา, สมควรจะได้ความสรรเสริญ: ดังนั้นข้าพเจ้าจึงได้รอดจากศัตรู. 5 เมื่อคลื่นแห่งความตายล้อมข้าพเจ้าไว้รอบ, และกระแสแห่งความชั่วทำให้ข้าพเจ้าตกใจกลัว. 6 เชือกบ่วงบาดแห่งความตายรัดรอบข้าพเจ้าแล้ว; บ่วงแร้วแห่งความมรณะมาขวางหน้าข้าพเจ้าไว้; 7 ขณะมีความทุกข์ร้อน, ข้าพเจ้าได้ร้องทูลพระยะโฮวา, ได้อธิฐาน, ทูลพระเจ้าของข้าพเจ้า, พระองค์ทรงสดับฟังเสียงร้องของข้าพเจ้าแต่พระวิหารของพระองค์, และคำอ้อนวอนของข้าพเจ้า, ได้ยินถึงพระกรรณของพระองค์. 8 ขณะนั้นแผ่นดินโลกก็สะเทือนหวั่นไหว, เสารองฟ้าก็สั่นสะท้าน, เพราะพระองค์ทรงพระพิโรธ. 9 มีควันพลุ่งออกจากพระนาสิกของพระองค์, มีเปลวไฟออกจากพระโอฐเผาผลาญเสีย, ถ่านก็ติดไหม้ด้วยเปลวไฟนั้น. 10 พระองค์ทรงยังฟ้าสวรรค์ให้น้อมก้มลงแล้วจึงเสด็จมา, มีพะยับมืดรองพระบาทของพระองค์. 11 พระองค์ทรงคะรูปเหาะไป. พระองค์ทรงปรากฏอยู่ตามสายลม. 12 พระองค์ทรงบันดาลให้พะยับมืดเป็นพลับพลาปกคลุมพระองค์ไว้, รวบรวมฝนกับเมฆทึบไว้ในท้องฟ้า. 13 กองถ่านไฟติดอยู่ด้วยรัศมีพระพักตรของพระองค์. 14 พระยะโฮวาทรงบันดาลให้ฟ้าร้องจากอากาศ, ผู้สูงยิ่งที่สุดก็ทรงเปล่งพระสุรเสียง. 15 พระองค์ทรงปล่อยลูกธนูไปกำจัดเขาเสีย, ทรงยังไฟฟ้าให้เขาพ่ายแพ้. 16 ขณะนั้นทางน้ำในทะเลก็ปรากฏขึ้น, รากเง่าแห่งแผ่นดินโลกก็เปิดออกเห็นแจ้ง, โดยพระยะโฮวาทรงตรัสห้ามปรามไว้, เพราะลมพ่นออกจากพระนาสิกของพระองค์, 17 พระองค์ทรงใช้แต่เบื้องบนมารับข้าพเจ้าไป, พระองค์ทรงพะยุงข้าพเจ้าขึ้นจากน้ำมาก; 18 พระองค์ทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นศัตรูผู้มีกำลัง, พ้นจากผู้ที่ชังข้าพเจ้าโดยมีกำลังมากกว่าข้าพเจ้า. 19 ขณะข้าพเจ้ามีภัยเขาขวางหน้าต่อสู้ข้าพเจ้า, แต่พระยะโฮวาได้เป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า. 20 พระองค์ได้ทรงนำข้าพเจ้าออกมาถึงที่กว้างขวาง, ทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอด, เพราะพระองค์ทรงพระเมตตาแก่ข้าพเจ้า. 21 พระยะโฮวาทรงตอบแทน, ตามความสัตย์ธรรมของข้าพเจ้า, ทรงประทานรางวัลตามมือบริสุทธิ์ของข้าพเจ้า. 22 ด้วยข้าพเจ้าได้รักษาพระบัญญัติของพระองค์, มิได้เสื่อมถอยจากพระเจ้าของข้าพเจ้าในทางที่ชั่ว. 23 ด้วยบรรดาพระบัญญัติของพระองค์อยู่ตรงหน้าข้าพเจ้า: และข้อปฏิบัติ, ข้าพเจ้ามิได้หลีกเลี่ยงไป. 24 ข้าพเจ้าได้ประพฤติดีรอบคอบ, ฉะเพาะพระองค์, ได้รักษาตนไว้ให้ปราศจากความชั่ว. 25 พระยะโฮวาจึงทรงประทานรางวัลตามความชอบธรรมของข้าพเจ้า; ตามความบริสุทธิ์ของข้าพเจ้า, ฉะเพาะพระเนตรพระองค์. 26 พระองค์จะทรงแสดงความเมตตาของพระองค์ต่อผู้มีจิตต์เมตตา, พระองค์จะทรงแสดงความดีรอบคอบต่อผู้ที่เป็นดีรอบคอบ. 27 พระองค์จะทรงแสดงความบริสุทธิ์ต่อผู้ที่เป็นบริสุทธิ์; พระองค์จะทรงแสดงความดื้อดึงต่อผู้ที่ดื้อดึง. 28 ผู้ที่มีทุกข์ยากนั้นพระองค์จะทรงช่วยให้รอด; แต่ทรงทอดพระเนตรดูผู้ที่ถือตนเพื่อจะทรงบันดาลให้ตกต่ำลงไป. 29 ด้วยข้าแต่พระยะโฮวา, พระองค์เป็นพระประทีปของข้าพเจ้า, พระยะโฮวาจะส่องในที่มืดของข้าพเจ้าให้สว่าง. 30 โดยฤทธิ์ของพระองค์, ข้าพเจ้าได้ลุยกองทัพไป; โดยพระเจ้าของข้าพเจ้าๆ จึงกระโดดข้ามกำแพงไป. 31 ฝ่ายพระเจ้าทางดำเนินของพระองค์ดีรอบคอบ; พระโอวาทของพระยะโฮวาได้ชันสูตรดูแล้ว, พระองค์เป็นโล่ห์ของคนทั้งปวงที่วางจากพระยะโฮวา. 32 หามีผู้ใด, ที่เป็นพระเจ้าไม่, นอกจากพระยะโฮวา. หามีใครเป็นศิลาไม่, เว้นไว้แต่พระเจ้าของพวกเรา? 33 พระเจ้าเป็นป้อมเข้มแข็งของข้าพเจ้า: และทรงนำพาไปในทางที่รอบคอบ. 34 พระองค์ให้เท้าของข้าพเจ้าเร็วคล้ายเท้าของแม่เนื้อ: และทรงบันดาลให้ข้าพเจ้ายืนบนที่สูงของข้าพเจ้า. 35 พระองค์ทรงฝึกสอนมือของข้าพเจ้าให้ชำนาญในการสงคราม; จนแขนของข้าพเจ้าโก่งคันธนูทองเหลืองได้. 36 พระองค์ได้ทรงประทานความรอดของพระองค์ให้เป็นโล่ห์แก่ข้าพเจ้า; และซึ่งพระองค์ทรงน้อมพระทัยลงนั้นกระทำให้ข้าพเจ้าเป็นใหญ่ขึ้น. 37 พระองค์ทรงบันดาลให้ก้าวเท้าของข้าพเจ้ากว้างออกไป; และเท้าของข้าพเจ้าไม่ลื่นพลาดเลย. 38 ข้าพเจ้าได้ไล่พวกศัตรูและผลาญเขาเสีย; มิได้กลับมาจนเขาพินาศหมดสิ้น. 39 ข้าพเจ้าได้ฟันเขาให้พินาศสิ้น, จนลุกขึ้นต่อสู้ไม่ได้, เขาทั้งหลายล้มลงใต้เท้าของข้าพเจ้าแล้ว. 40 เพราะพระองค์ได้ทรงรัดรอบข้าพเจ้าไว้ให้มีกำลังทำการศึก; ทรงกระทำให้ผู้ต่อสู้อ่อนน้อมต่อข้าพเจ้า. 41 พระองค์ได้ทรงกระทำให้ข้าศึกหันหลังกลับ, เพื่อข้าพเจ้าจะได้ประหารพวกศัตรู. 42 เขาได้แสวงหา, แต่หามีใครช่วยเขาไม่; ถึงแม้ว่าเขาร้องถึงพระยะโฮวา, แต่พระองค์ไม่ทรงตอบ. 43 ข้าพเจ้าทุบตีเขาเป็นจุลดุจฝุ่นแผ่นดิน, ข้าพเจ้าขย้ำเขาให้แหลกเหลว, เหมือนโคลนที่ถนน. 44 พระองค์ทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากการยื้อแย่งพลไพร่ของข้าพเจ้า, พระองค์ได้ทรงรักษาข้าพเจ้าไว้ให้เป็นหัวหน้าของชนต่างประเทศ; 45 ชนประเทศที่ข้าพเจ้ายังไม่รู้จักนั้น, จะมาปฏิบัติข้าพเจ้า. ชาวประเทศต่างๆ จะนอบน้อมต่อข้าพเจ้า, พอเขาได้ยินถึงข้าพเจ้า, เขาจะเชื่อฟังข้าพเจ้าในทันใดนั้น. 46 คนแขกเมืองจะระส่ำระส่ายไป, แลจะสะดุ้งสะท้านออกมาจากค่ายของเขา. 47 พระยะโฮวาทรงพระชนม์อยู่; สาธุแก่ศิลาของข้าพเจ้า: และจงให้พระเจ้าศิลาแห่งความรอดของข้าพเจ้าสูงใหญ่ขึ้น. 48 คือพระเจ้าที่ทรงกระทำการแก้แค้นให้ข้าพเจ้า. และทรงปราบปรามชนประเทศต่างๆ ให้อยู่ใต้อำนาจข้าพเจ้า; 49 และทรงช่วยให้พ้นจากศัตรูของข้าพเจ้า; พระองค์ทรงยกข้าพเจ้าขึ้นเหนือศัตรูที่ต่อสู้ข้าพเจ้า, พระองค์ทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากคนร้ายกาจ 50 เหตุฉะนั้น, ข้าแต่พระยะโฮวา, ข้าพเจ้าจะโมทนาพระคุณพระองค์ในท่ามกลางชนนานาประเทศ, จะร้องเพลงถวายสรรเสริญพระนามของพระองค์. 51 พระองค์เป็นป้อมความรอดแก่กษัตริย์ของพระองค์; และทรงแสดงพระกรุณาแก่ผู้ชะโลมของพระองค์, คือดาวิดและพงศ์พันธุ์ของท่านสืบไปเป็นนิตย์. |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society