2พงศ์กษัตริย์ 9 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 อะลีซาผู้พยากรณ์จึงเรียกคนหนึ่งในเหล่าศิษย์ผู้พยากรณ์, กล่าวแก่เขาว่า, จงคาดเอว ถืออับน้ำมันไปยังเมืองราโมธฆีละอาด: 2 เมื่อถึงแล้ว, จงไปหาเยฮูบุตรยะโฮซาฟาดบุตรนิมซี, แล้วจงเข้าไปเรียกท่านให้ลุกขึ้นออกจากท่ามกลางพี่น้องของท่าน, และพาเจ้าไปในห้องชั้นใน; 3 จงเอาน้ำมันนี้เทลงบนศีรษะของท่าน, และกล่าวว่า, พระยะโฮวาได้ตรัสดังนี้ว่า, “เราได้เฉลิมท่านได้เป็นกษัตริย์เหนือยิศราเอล.” แล้วจงเปิดประตูหนีไป, อย่าคอยอยู่ที่นั่นเลย 4 แล้วคนหนุ่มนั้น, คือคนหนุ่มผู้พยากรณ์, ก็ไปยังเมืองราโมธฆีละอาด. 5 เมื่อมาถึงแล้ว, นายทหารทั้งหลายแห่งกองทัพนั้นกำลังนั่งอยู่; และเขาว่า, ฉันมีธุระกับท่าน; เยฮูจึงถามว่า, ธุระกับผู้ใดในพวกเรา? เขาจึงตอบว่า, ธุระกับท่านเอง. 6 และท่านก็ลุกเข้าไปในห้อง; แล้วเขาก็เอาน้ำมันเทลงบนศีรษะของท่านกล่าวว่า, พระยะโฮวาพระเจ้าแห่งยิศราเอลทรงตรัสดังนี้ว่า, เราได้เฉลิมท่านเป็นกษัตริย์ครอบครองพลไพร่ของพระยะโฮวา, คือพวกยิศราเอล. 7 และท่านจงประหารเชื้อวงศ์ของอาฮาบนายของท่าน, เพื่อเราจะได้แก้แค้นโลหิตแห่งผู้ทาสทั้งหลายของเราคือผู้พยากรณ์, และโลหิตแห่งผู้ทาสทั้งปวงของพระยะโฮวา, ซึ่งมือของอิซาเบ็ลได้กระทำไว้นั้น. 8 ด้วยว่าเชื้อวงศ์ของอาฮาบทั้งสิ้นจะต้องพินาศไป: และเราจะประหารชายทุกคนที่ถูกขังไว้, และผู้ที่ไม่ถูกขังในยิศราเอลซึ่งเป็นวงศ์ของอาฮาบ: 9 แลเราจะทำลายเชื้อวงศ์ของอาฮาบให้เป็นเหมือนเชื้อวงศ์ยาราบะอามบุตรนะบาต, และเหมือนอย่างเชื้อวงศ์บาอะซาบุตรของอาฮียา: 10 สุนัขจะกินอิซาเบ็ลในตำบลหนึ่งที่เมืองยิศเรลนั้น, และจะไม่มีใครฝังศพนางนั้นเลย. แล้วเขาก็เปิดประตูหนีไป 11 เยฮูก็ออกมายังข้าราชการของกษัตริย์: มีคนหนึ่งถามท่านว่า, เรียบร้อยกันหมดหรือ? เหตุไฉนคนบ้านั้นจึงมาหาท่าน? ท่านจึงตอบว่า, ท่านทั้งหลายก็รู้จักคนนั้น, และข่าวคราวซึ่งเขานำเอามา: 12 เขาทั้งหลายจึงตอบว่า, ไม่จริง; ยังไม่รู้เลย, ท่านจงบอกเราเดี๋ยวนี้. ท่านจึงตอบว่า, เขาได้กล่าวดังนี้แก่ข้าว่า, พระยะโฮวาได้ตรัสดังนี้ว่า, เราได้เฉลิมท่านไว้เป็นกษัตริย์ครอบครองยิศราเอล. 13 แล้วเขาทั้งหลายทุกคนจึงรับเอาเสื้อของเขารองให้ท่านนั่งที่หัวบันได, และได้เป่าแตรขึ้นร้องว่า, เยฮูเป็นกษัตริย์. 14 เยฮูบุตรยะโฮซาฟาดซึ่งเป็นบุตรนิมซีก็คิดกบฏต่อโยราม. ขณะนั้นโยรามกับพวกยิศราเอลทั้งหมดยังตั้งค่ายรักษาเมืองราโมธฆีละอาดต่อสู้ฮะซาเอลกษัตริย์ซุเรียอยู่. 15 แต่กษัตริย์โยรามได้กลับมายังเมืองยิศเรลเพื่อรักษาบาดแผลซึ่งชาวซุเรียยิงท่านนั้น, เมื่อท่านรบกับฮะซาเอลกษัตริย์เมืองซุเรีย; แล้วเยฮูจึงกล่าวว่า, ถ้าท่านทั้งหลายเห็นชอบแล้ว, อย่าให้ผู้ใดหนีออกจากเมืองนี้, เพื่อบอกข่าวในเมืองยิศเรลเลย. 16 เยฮูจึงขี่รถไปยังเมืองยิศเรล; ด้วยว่าโยรามประชวรอยู่ที่นั่น. และอาอัศยากษัตริย์ยูดาก็เสด็จลงมาเยี่ยมเยียนโยราม. 17 มีทหารยามผู้หนึ่งซึ่งยืนยามอยู่ในหอคอยในเมืองยิศเรล, แลเห็นพวกเยฮูมา, ก็ร้องว่า, ข้าพเจ้าได้เห็นคนพวกหนึ่งมา. และโยรามก็ตรัสสั่งว่า, จงใช้ทหารม้าผู้หนึ่งไปหาเขา, และถามว่าท่านมาดีหรือ? 18 ทหารม้าผู้นั้นก็ออกไปหาเขากล่าวว่า, กษัตริย์นั้นตรัสถามว่าท่านมาดีหรือ? เยฮูตอบว่า, มาดีหรือมาร้ายเป็นธุระอะไรของเจ้าเล่า? จงถอยไปตามหลังเรา. ทหารยามนั้นจึงบอกว่า, ทหารม้านั้นได้พบพวกนั้นแล้ว, แต่มิได้กลับมาอีก. 19 ท่านก็ใช้ทหารม้าคนที่สองไปหาพวกท่านอีกกล่าวว่า, กษัตริย์ได้ตรัสถามว่า, ท่านมาดีหรือ? เยฮูตอบว่า, จะมาดีหรือมาร้ายเป็นธุระอะไรของเจ้าเล่า? จงถอยไปข้างหลังเรา. 20 ทหารยามนั้นกล่าวว่า, ทหารม้านั้นไปถึงเขาแล้ว, แต่มิได้กลับมาอีก. กิริยาของผู้ขับรถนั้นท่าทางเหมือนเยฮูบุตรนิมซี; ด้วยว่าเขาขับมาเร็วยิ่งนัก. 21 โยรามจึงตรัสสั่งว่า, จงจัดแจงรถรบให้พร้อม. เมื่อเขาจัดแจงรถรบของท่านพร้อมแล้ว. โยรามกษัตริย์ยิศราเอลและอาฮัศยากษัตริย์ยูดา, ก็ทรงรถรบองค์ละคันออกไปต่อสู้เยฮู, และได้พบท่านในสวนของนาโบธชาวยิศเรล. 22 เมื่อโยรามทรงเห็นเยฮู, จึงตรัสถามว่า, เยฮูเอ๋ย, เจ้ามาดีหรือ? เยฮูตอบว่า, จะมาดีอย่างไรได้เมื่อการล่วงประเวณีและการทรงเจ้าเข้าผีของอิซาเบ็ลราชมารดาท่านยังมีมากอยู่? 23 โยรามก็หันหนีไปร้องบอกอาฮัศยาว่า, อาฮัศยาเอ๋ย, เกิดการกบฏขึ้นแล้ว. 24 และเยฮูจึงลั่นธนูออกไปด้วยเต็มกำลัง, ถูกโยรามที่กลางไหล่รวบ, ลูกธนูนั้นเล่นทะลุหัวใจออกมาข้างหน้า, แล้วท่านก็ล้มลงในรถรบ. 25 เยฮูจึงกล่าวแก่บิคคานายสารถีของท่านว่า, จงยกศพนี้ทิ้งไว้ในสวนของนาโบธชาวยิศเรลนั้น: ด้วยว่าเจ้าจำได้ว่าเมื่อเราตามอาฮาบราชบิดาของโยรามออกไปด้วยกัน, พระยะโฮวาได้ทรงกำหนดโทษหนักนี้ไว้แก่เขา 26 ตรัสดังนี้ว่า; เมื่อวานนี้เราได้เห็นโลหิตของนาโบธ, และบุตรชายทั้งหลายของเขา, และเราจะแก้แค้นเจ้าแทนเขาในที่นี้. เหตุฉะนี้จงทิ้งศพไว้ที่นั่นตามคำของพระยะโฮวา 27 เมื่ออาฮัศยากษัตริย์ยูดาได้ทรงเห็นการนี้, ก็หนีไปทางทำเนียบในสวน. เยฮูก็ไล่ตามไป, ร้องว่า, จงฆ่าคนในรถนั้นด้วย. และเขาก็ได้ฟันท่านตามทางที่จะขึ้นไปตำบลคูระใกล้เมืองอิปลาม. แล้วอาฮัศยาก็หนีไปสิ้นพระชนม์ที่เมืองมะฆิโด. 28 ข้าราชการของท่านก็นำศพไปในรถรบยังกรุงยะรูซาเลม, ฝังไว้ในอุโมงค์ด้วยกันกับปู่ย่าตายาย ณ เมืองดาวิด. 29 ในปีที่สิบเอ็ดแห่งรัชชกาลของโยราม โอรสอาฮาบอาฮัศยาได้ขึ้นเสวยราชย์ในประเทศยูดา 30 เมื่อเยฮูมาถึงเมืองยิศเรลแล้ว, อีซาเบ็ลได้ทราบ; ก็แต่งพักตรหวีเกษาแต่งองค์สวยเยี่ยมพระแกลแลดู. 31 เมื่อเยฮูเข้าไปในประตู, อีซาเบ็ลร้องถามว่า, เจ้าผู้ฆ่าเจ้านายของตนเหมือนอย่างซิมรีมาดีหรือ? 32 เยฮูก็แหงนดูพระแกลนั้นถามว่า, ใครอยู่ฝ่ายเราเล่า? มีขันทีสองสามคนเยี่ยมหน้าออกมา. 33 เยฮูจึงสั่งว่า, จงทิ้งมันลงมา: ขันทีเหล่านั้นก็จับอีซาเบ็ลทิ้งลง: และเลือดสาดกระเซ็นติดฝาผนัง, และที่ตัวม้า: และม้าก็เหยียบอีซาเบ็ลไว้. 34 เมื่อเยฮูได้เข้ามาแล้วก็รับประทานอาหาร, แล้วจึงสั่งว่า, จงไปดูหญิงน่าเกลียดชังนั้น, และฝังศพเสีย: เพราะเป็นธิดากษัตริย์. 35 แล้วเขาเหล่านั้นก็ได้ออกไปจะฝังศพ: ก็ได้พบกะโหลกศีรษะ, เท้าและฝ่ามือเท่านั้น. 36 แล้วเขาก็เอามาบอกเยฮู. ท่านจึงว่า, นั่นแหละเป็นไปตามคำแห่งพระยะโฮวาซึ่งพระองค์ได้ตรัสโดยผู้ทาสของพระองค์, คือเอลียาชาวทิศบีนั้นว่า, ในสวนแห่งยิศเรลฝูงสุนัขจะได้กินเนื้อของอีซาเบ็ล: 37 และซากศพของอีซาเบ็ล, จะเป็นเหมือนปุ๋ยที่ในสวนยิศเรล: เพื่อเขาทั้งหลายจะกล่าวไม่ได้ว่า, นี่เป็นอีซาเบ็ล |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society