2พงศ์กษัตริย์ 3 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ยะโฮรามโอรสอาฮาบได้ขึ้นเสวยราชย์ในแผ่นดินยิศราเอลที่กรุงซะมาเรียเป็นปีที่สิบแปดแห่งยะโฮซาฟาดกษัตริย์ยูดา, และเสวยราชย์อยู่สิบสองปี. 2 ท่านได้ประพฤติชั่วลามกในคลองพระเนตรแห่งพระยะโฮวา; แต่ไม่เหมือนพระราชบิดา, และราชมารดาของท่าน: เพราะท่านได้ทำลายหอนมัสการบาละซึ่งราชบิดาของท่านได้สร้างไว้. 3 แต่ท่านยังได้ประพฤติตามการผิดทั้งหลายแห่งยาราบาอามโอรสนะบาต, ซึ่งได้กระทำให้พวกยิศราเอลหลงผิดนั้น; ท่านหาละทิ้งการผิดนั้นไม่ 4 เมซากษัตริย์โมอาบเป็นผู้มีฝูงแกะมากมาย, ท่านได้ถวายลูกแกะแสนหนึ่ง, และแกะตัวผู้แสนหนึ่ง, กับทั้งขนแกะแก่กษัตริย์ยิศราเอล. 5 แต่อยู่มาเมื่ออาฮาบได้สวรรคตแล้ว, กษัตริย์โมอาบก็กบฏต่อกษัตริย์ยิศราเอล 6 กษัตริย์ยะโฮรามก็เสด็จออกไปจากกรุงซะมาเรีย ณ ในเวลาเดียวกันนั้น, เพื่อรวมพลยิศราเอลทั้งปวง. 7 ท่านใช้คนไปเฝ้ายะโฮซาฟาดกษัตริย์ยูดา, ทูลว่า, กษัตริย์โมอาบกบฏต่อข้าพเจ้าแล้ว: ท่านจะร่วมมือกับข้าพเจ้าสู้รบกับชาวโมอาบหรือไม่? กษัตริย์ยูดาตอบว่า, ข้าพเจ้าจะไป: ข้าพเจ้ากับท่านก็เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน, ไพร่พลของข้าพเจ้าก็เหมือนไพร่พลของท่าน, และม้าของข้าพเจ้าก็เหมือนม้าของท่าน. 8 ท่านถามว่า, เราจะไปทางไหน? ท่านทูลตอบว่า, จะไปทางป่าอะโดม. 9 ดังนั้นกษัตริย์ยิศราเอลก็เสด็จไปพร้อมกับกษัตริย์ยูดา, และกษัตริย์อะโดม: สามกษัตริย์นั้นก็เดินทางอ้อมไปเจ็ดวัน. ครั้นไม่มีน้ำสำหรับกองทัพ, และฝูงสัตว์ที่ไปด้วยนั้น. 10 กษัตริย์ยิศราเอลจึงว่า, อนิจจา! พระยะโฮวานั้นได้ทรงเรียกสามกษัตริย์นี้มา, เพื่อจะมอบไว้ในมือชาวโมอาบ! 11 แต่ยะโฮซาฟาดทูลถามว่า, ไม่มีผู้พยากรณ์แห่งพระยะโฮวาที่นี่หรือ, เพื่อเราจะได้ถามพระยะโฮวาจากท่าน? ข้าราชการแห่งกษัตริย์ยิศราเอลผู้หนึ่งตอบว่า, อะลีซาบุตรซาฟาด, ผู้ได้เทน้ำล้างมือเอลียาอยู่ที่นี่. 12 ยะโฮซาฟาดจึงว่า, คำของพระยะโฮวาอยู่กับคนนั้น. กษัตริย์ยิศราเอลและยะโฮซาฟาดและกษัตริย์อะโดมก็ลงไปหาท่าน. 13 อะลีซาจึงทูลกษัตริย์ยิศราเอลว่า, ข้าพเจ้ามิได้เกี่ยวข้องกับท่าน? ท่านจงไปหาเหล่าผู้พยากรณ์ของราชบิดาท่านเถิด, และเหล่าผู้พยากรณ์แห่งราชมารดาท่าน. กษัตริย์ยิศราเอลจึงตอบว่า, มิได้: ด้วยว่าพระยะโฮวาได้ทรงเรียกเราสามกษัตริย์นี้มาด้วยกัน, เพื่อจะมอบไว้ในมือชาวโมอาบ. 14 อะลีซาจึงตอบว่า, พระยะโฮวาแห่งพลโยธาทรงพระชนม์อยู่, และข้าพเจ้ายืนอยู่ต่อพระพักตรพระองค์แน่ฉันใด, ถ้าข้าพเจ้ามิได้เห็นหน้ายะโฮซาฟาดกษัตริย์ยูดา, ข้าพเจ้าก็จะมิได้แลเห็นหน้าท่านเลยเป็นแน่ฉันนั้น. 15 แต่บัดนี้จงนำนักดนตรีคนหนึ่งมาให้ข้าพเจ้า. เมื่อนักดนตรีได้บรรเลง, พระหัตถ์แห่งพระยะโฮวาก็มาอยู่บนอะลีซา. 16 ท่านจึงกล่าวว่า, พระยะโฮวาได้ตรัสดังนี้ว่า, “จงขุดร่องให้ทั่วไปในหว่างเขานี้.” 17 เพราะพระยะโฮวาได้ตรัสดังนี้ว่า, “ท่านทั้งหลายจะไม่เห็นลมพัด, หรือฝนตก; แต่จะมีน้ำเต็มในหว่างเขานั้น, ท่านทั้งหลายจะได้ดื่ม, ทั้งท่าน, กับทั้งโคและฝูงสัตว์ใช้ของท่าน. 18 เพราะนี่เป็นการเล็กน้อยในคลองพระเนตรแห่งพระยะโฮวา: พระองค์จะทรงมอบชาวโมอาบไว้ในมือของท่านด้วย. 19 ท่านทั้งหลายจงตีเมืองที่มีกำแพง, และเมืองที่งดงามให้แตกทุกเมือง, จงโค่นต้นไม้ดีทุกต้น, จงถมบ่อน้ำทั้งปวง. และไร่นาดีทุกแห่งด้วยก้อนหิน.” 20 ครั้นรุ่งเช้าแล้ว, เวลาที่ถวายบูชาเนื้อ, ก็มีน้ำไหลมาทางเมืองอะโดม, และน้ำก็ท่วมตำบลนั้น 21 และเมื่อชาวโมอาบทั้งปวงได้ยินว่ากษัตริย์เหล่านั้นได้ยกไปสู้รบกับเขา, เขาก็ได้ประชุมคนทั้งปวงที่มีอายุพอที่จะถือเครื่องอาวุธได้. คือตั้งแต่เด็กหนุ่มจนถึงคนชรา, แล้วตั้งรับอยู่ที่เขตต์แดน. 22 ครั้นรุ่งเช้า, แดดส่องบนน้ำ, ชาวโมอาบลุกขึ้นแลเห็นน้ำข้างโน้นแดงเหมือนเลือด: 23 เขาทั้งหลายก็พูดกันว่า, นั่นคือเลือด, กษัตริย์เหล่านั้นที่ฆ่าฟันกันเองถึงแก่ความพินาศ: เหตุฉะนี้, ชาวโมอาบเอ๋ย, จงไปริบเอาของ ๆ เขาเถิด. 24 เมื่อเขามาถึงค่ายของพวกยิศราเอลแล้ว, พวกยิศราเอลก็โจมตีชาวโมอาบ, จนแตกหนีไป: แล้วก็ตามตีชาวโมอาบต่อไป, จนเข้าเขตต์แดนเมืองของเขา. 25 เขาได้ทำลายเมืองทั้งหลาย, และทุกคนได้แบกหินคนละก้อนทิ้งลงในที่ดินดี, และถมบ่อน้ำทุกแห่งให้เต็ม; เขาตัดต้นไม่ดีทุกต้น: เว้นแต่เมืองคีฮาระเซ็ธ กำแพงตึกยังคงอยู่; แต่ทหารได้ล้อมตีเมืองนั้นด้วยใช้เครื่องขว้างก้อนหิน 26 เมื่อกษัตริย์โมอาบเห็นว่าจะสู้ไม่ได้, จึงเลือกทหารถือดาบเจ็ดร้อยคนหวังจะตีผ่าออกไปทางด้านกษัตริย์อะโดม: แต่ไม่สำเร็จ. 27 แล้วกษัตริย์โมอาบก็นำโอรสหัวปีที่จะเสวยราชย์แทนมาเผาถวายบูชาบนกำแพง. และแสดงความเกลียดชังพวกยิศราเอลมาก: พวกยิศราเอลก็ยกทัพเลิกกลับไปเมืองของตน |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society