2พงศ์กษัตริย์ 17 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ในปีที่สิบสองแห่งรัชชกาลอาฮาศกษัตริย์ยูดาโฮเซอาบุตรเอลาได้ขึ้นเสวยราชย์ครองประเทศยิศราเอลในกรุงซะมาเรียครบเก้าปี. 2 ท่านได้ประพฤติชั่วร้ายในคลองพระเนตรแห่งพระยะโฮวา, แต่ไม่เหมือนอย่างกษัตริย์ทั้งหลายแห่งชาติยิศราเอลก่อนๆ ท่าน 3 ซัลมัลเอเซ็รกษัตริย์อะซูริยะยกกองทัพมาจะรบท่าน; โฮเซอาได้ยอมสวามิภักดิ์, และได้ถวายเครื่องบรรณาการให้แก่ท่าน. 4 กษัตริย์อะซูริยะได้ทราบว่าโฮเซอาคิดกบฏ; เพราะท่านได้ใช้ราชทูตไปทำไมตรีกับโซกษัตริย์อายฆุบโต, และมิได้นำเครื่องบรรณาการไปถวายกษัตริย์อะซูริยะเหมือนอย่างที่ได้กระทำมาทุกปี: เหตุฉะนี้กษัตริย์อะซูริยะจึงจับท่านใส่ตรวนขังไว้ในเรือนจำ. 5 แล้วกษัตริย์อะซูริยะก็ยกกองทัพมาตีทั่วแผ่นดินยิศราเอล, แล้วยกมากรุงซะมาเรีย, ตั้งค่ายล้อมรอบกรุงไว้สามปี 6 ในปีที่เก้าแห่งรัชชกาลโฮเซอากษัตริย์อะซูเรียตีกรุงซะมาเรียได้, และกวาดเอาพวกยิศราเอลไปยังประเทศอะซูริยะ, ให้เขาอยู่ในตำบลฮะลาและในตำบลอาโบรตำบลที่ริมแม่น้ำโฆซัน, และในตัวเมืองแห่งชาวมาดาย. 7 ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะพวกยิศราเอลได้ทำผิดต่อพระยะโฮวาพระเจ้าของตน, ผู้ได้ทรงนำเขาออกจากประเทศอายฆุบโต, ออกจากอำนาจของฟาโรกษัตริย์อายฆุบโต, และเพราะเขาได้กลัวเกรงพระอื่นๆ, 8 และได้ประพฤติตามธรรมเนียมของชนต่างชาติ, ซึ่งพระยะโฮวาทรงขับไล่ออกไปเสียจากข้างหน้าพวกยิศราเอล, และประพฤติตามข้อกฎหมายของกษัตริย์ทั้งหลายแห่งชาติยิศราเอลซึ่งได้ตั้งไว้. 9 พวกยิศราเอลได้ซ่อนกระทำการผิดต่อพระยะโฮวาพระเจ้าของเขา, และได้สร้างที่นมัสการบนเนินสูงในเมืองทั้งหลายของเขา, ทั้งเมืองที่มีหอคอยจนถึงเมืองที่มีกำแพง. 10 เขาได้ตั้งเสารูปพระสำหรับนมัสการ, และรูปเคารพสลักด้วยไม้ไว้บนยอดภูเขาสูงทุกยอด, และใต้ต้นไม้ครึ้มทุกต้น: 11 ที่นั่นเขาได้เผาเครื่องหอมในที่นมัสการบนเนินสูงนั้น, เหมือนอย่างพวกชนต่างชาติ; ซึ่งพระยะโฮวาได้ทรงกวาดเอาไปข้างหน้าเขา; และได้กระทำการชั่วร้ายให้พระยะโฮวาทรงพระพิโรธ: 12 เขาได้ไหว้รูปพระ, ซึ่งพระยะโฮวาได้สั่งเขาแล้วว่า, อย่าทำการนี้เลย. 13 พระยะโฮวายังทรงเป็นพะยานต่อชาวยิศราเอล, และชาวยูดาย, โดยผู้พยากรณ์ทั้งปวง, และโดยผู้อาจเล็งเห็นการลึกซึ้งทั้งปวงนั้นว่า, เจ้าทั้งหลายจงหันกลับจากทางชั่วทั้งปวงของเจ้า, และรักษาบัญญัติและข้อกฎหมายของเรา, ตามพระธรรมทั้งสิ้นซึ่งเราได้สั่งแก่ปู่ย่าตายายของเจ้า, และซึ่งเราได้ประกาศแก่เจ้าโดยผู้พยากรณ์ทั้งหลายทาสของเรา. 14 แต่ทว่าเขาทั้งหลายมิได้ฟัง, แต่ได้ทำคอแข็ง, เหมือนดังคอของปู่ย่าตายายเขา, ผู้มิได้เชื่อพระยะโฮวาพระเจ้าของเขา. 15 เขาได้ละทิ้งข้อกฎหมายของพระองค์, และคำสัญญาไมตรีซึ่งพระองค์ทรงกระทำได้กับปู่ย่าตายายของเขา, และคำปฏิญาณซึ่งพระองค์ได้ทรงปฏิญาณต่อเขา; เขาได้ประพฤติตามการอันหาประโยชน์มิได้, และอวดตัว, และได้ตามพวกต่างประเทศซึ่งอยู่ล้อมรอบเขา, ตามซึ่งพระยะโฮวาได้ทรงชำกับเขาว่า, ไม่ควรจะทำเหมือนพวกชนต่างชาติเหล่านั้นเลย. 16 เขาได้ทิ้งพระบัญญัติทั้งหลายแห่งพระยะโฮวาพระเจ้าของเขา, และได้ทำรูปหล่อ, คือรูปโคสองรป, และรูปเคารพสลักด้วยไม้, และได้ไหว้นมัสการดวงสว่างทั้งหมดในท้องฟ้า, และได้ไหว้บาละ. 17 เขาเผาบุตรชายหญิงของเขาถวายบูชา, และได้ใช้การวิชาอาคมเล่ห์กล, และยอมตนกระทำการชั่วร้ายในคลองพระเนตรแห่งพระยะโฮวา, เป็นที่ให้พระองค์ทรงพระพิโรธ. 18 เหตุฉะนี้พระยะโฮวาได้ทรงพระพิโรธพวกยิศราเอลเป็นอันมาก, จึงทรงขับไล่เข้าไปให้พ้นจากคลองพระเนตรของพระองค์มิได้เหลือเลย, เว้นเสียแต่ตระกูลยูดาตระกูลเดียว. 19 ตระกูลยูดามิได้รักษาพระบัญญัติแห่งพระยะโฮวาพระเจ้าของเขาเลย, แต่ได้ประพฤติตามธรรมเนียมแห่งชาวยิศราเอลซึ่งได้เคยกระทำ. 20 พระยะโฮวาได้ทรงละทิ้งเชื้อวงศ์ทั้งหมดแห่งพวกยิศราเอล, และบันดาลให้เขามีความทุกข์, และได้มอบเขาไว้ในมือของพวกโจร, จนถึงพระองค์ได้ทรงขับไล่เขาเสียจากคลองพระเนตรของพระองค์. 21 เพราะว่าพระองค์ทรงแยกพวกชาวยิศราเอลออกจากเชื้อวงศ์ของดาวิด; และเขาก็ได้ยกยาราบะอามบุตรนะบาตขึ้นเป็นกษัตริย์: ยาราบะอามนั้นก็นำพวกยิศราเอลออกจากการปรนนิบัติพระยะโฮวา, และนำให้เขากระทำการผิดใหญ่. 22 พวกยิศราเอลนั้นประพฤติตามการผิดทั้งปวงแห่งยาราบะอามซึ่งท่านได้กระทำ; และเขาหาได้หันกลับจากการผิดนั้นไม่, 23 จนถึงพระยะโฮวาได้ทรงขับไล่พวกยิศราเอลให้พ้นจากคลองพระเนตรพระองค์, ตามที่พระองค์ได้ทรงตรัสไว้แล้วโดยผู้พยากรณ์ทั้งหลายทาสของพระองค์. ดังนั้นแหละพวกยิศราเอลได้ถูกขับไล่ไปจากประเทศของตนไปยังประเทศอะซูริยะจนถึงทุกวันนี้ 24 กษัตริย์อะซูริยะส่งคนมาจากบาบูโลน, จากตำบลคูธา, จากตำบลอาวา, จากเมืองฮามัธ, และจากเมืองซะฟันวายิม, ให้เขาอยู่ในเมืองทั้งหลายแห่งประเทศซะมาเรียแทนพวกยิศราเอล: เขาเหล่านั้นก็เป็นชาวประเทศซะมาเรีย, และได้อาศัยในเมืองเหล่านั้น. 25 ทีแรกเมื่อเขาอาศัยอยู่ที่นั่น, เขามิได้กลัวเกรงพระยะโฮวา: เหตุฉะนี้พระยะโฮวาจึงใช้ฝูงสิงห์โตไปท่ามกลางเขา, และได้ฆ่าบางคนเสีย. 26 เหตุนี้มีผู้ทูลกษัตริย์อะซูริยะว่า, ชาวประเทศเหล่านั้นซึ่งท่านได้ส่งไปให้อยู่ในเมืองทั้งหลายแห่งประเทศซะมาเรีย, หารู้จักข้อกฎหมายแห่งพระเจ้าของแผ่นดินนั้นไม่: เหตุฉะนี้พระองค์จึงใช้ฝูงสิงห์โตเที่ยวไปท่ามกลางเขา, มันก็ฆ่าเขา, เพราะเขาไม่รู้จักข้อกฎหมายของพระเจ้าแห่งแผ่นดินนั้น. 27 แล้วกษัตริย์อะซูริยะจึงสั่งว่า, จงเลือกปุโรหิตคนหนึ่งออกจากพวกปุโรหิตซึ่งเจ้าได้กวาดมาจากแผ่นดินนั้น; ให้เขาไปอาศัยที่นั่น, และสั่งสอนราษฎรเหล่านั้นให้รู้จักข้อกฎหมายแห่งพระเจ้าของแผ่นดินนั้น. 28 แล้วปุโรหิตคนหนึ่งในพวกเหล่านั้นซึ่งได้ถูกกวาดต้อนมาจากประเทศซะมาเรียจึงได้ไปอาศัยในเมืองเบ็ธเอล, และสั่งสอนราษฎรให้รู้ว่าควรจะเกรงกลัวพระยะโฮวาอย่างไร. 29 แต่ชาวต่างประเทศเหล่านั้นได้กระทำรูปพระของตนเองตั้งไว้ในโบสถ์แห่งที่นมัสการบนเนินสูง, ซึ่งชาวซะมาเรียได้กระทำไว้, แล้วชาวต่างประเทศได้ตั้งพระของเขาไว้ในเมืองที่เขาอาศัยอยู่นั้น. 30 ชาวบาบูโลนได้สร้างพระซูโคธบะโนธ, ชาวคูธได้สร้างพระเนระคัล, ชาวฮามัธได้สร้างพระอะซีมา, 31 ชาวอาวาได้สร้างพระนีบฮาศและธาระธาค, ชาวซะฟันวายิมได้เผาลูกของเขาถวายบูชาเจ้าพระอัดราเมเล็ศ, และพระอะนาเมเล็ศพระของชาวซะฟันวายิม. 32 เขาทั้งหลายก็กลัวพระยะโฮวา, แต่ยังได้เลือกตั้งปุโรหิตจากพวกเขาออกจากคนเลวไว้สำหรับนมัสการบนเนินสูง, ผู้ได้ถวายบูชาสำหรับเขาในโบสถ์แห่งที่นมัสการบนเนินสูงทั้งหลายนั้น. 33 เขากลัวเกรงพระยะโฮวา, แต่ได้ปรนนิบัติพระของตนด้วย, ตามอย่างประเทศเหล่านั้นซึ่งเขาได้ถูกขับไล่ออกมานั้น. 34 เขาประพฤติตามธรรมเนียมโบราณจนถึงทุกวันนี้: เขามิได้เกรงพระยะโฮวา, มิได้ประพฤติตามข้อกฎหมาย, หรือข้อพิพากษา, หรือพระธรรม, หรือพระบัญญัติซึ่งพระยะโฮวาได้มีรับสั่งแก่ลูกหลานของยาโคบ, ซึ่งพระองค์ได้ให้มีชื่อว่ายิศราเอล; 35 และซึ่งพระยะโฮวาผู้ได้กระทำคำสัญญาไมตรีกำชับไว้ว่า, เจ้าทั้งหลายอย่านับถือกลัวเกรงพระอื่นๆ เลย, หรืออย่ากราบไหว้, หรือปรนนิบัติ, หรืออย่าถวายบูชาแก่พระเหล่านั้น: 36 แต่พระยะโฮวาผู้ซึ่งได้นำเจ้าออกจากประเทศอายฆุบโต, โดยฤทธิ์อันใหญ่และโดยพระหัตถ์ที่ทรงเหยียดออก, พระองค์นั้นเจ้าทั้งหลายต้องกลัวเกรง, และต้องนมัสการ, และเจ้าต้องถวายบูชาแก่พระองค์. 37 ข้อกฎหมาย, ข้อพิพากษา, พระธรรมและพระบัญญัติซึ่งพระองค์ได้ทรงจารึกไว้สำหรับเจ้า, เจ้าทั้งหลายจงรักษาไว้และประพฤติตามเป็นนิตย์: เจ้าอย่าได้กลัวเกรงเหล่าพระอื่นเลย. 38 และคำสัญญาไมตรีนั้นซึ่งเราได้กระทำแก่เจ้าอย่าลืมเลย; หรืออย่ากลัวเกรงเหล่าพระอื่นเลย. 39 แต่เจ้าทั้งหลายจงเกรงกลัวพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้า; และพระองค์จะให้เจ้ารอดจากเงื้อมมือศัตรูทั้งหลายของเจ้า. 40 แต่เขามิได้เชื่อฟัง, แต่ได้ประพฤติตามอย่างธรรมเนียมโบราณ. 41 ดังนั้นแหละชาวประเทศเหล่านั้นก็ได้เกรงกลัวพระยะโฮวา, แต่ยังได้ไหว้รูปพระของเขา, กับลูกหลานของเขา, ปู่ย่าตายายของเขา: ได้กระทำฉันใดเขาก็ได้กระทำฉันนั้นจนถึงทุกวันนี้ |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society