2โครินธ์ 12 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940ผู้หนึ่งถูกรับขึ้นไปยังสวรรค์ 1 ข้าพเจ้าจำจะต้องอวด ถึงจะไม่มีประโยชน์อะไร, แต่ข้าพเจ้าจะดำเนินความต่อไปถึงนิมิตต์และการสำแดงซึ่งมาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า. 2 สิบสี่ปีมาแล้วข้าพเจ้าได้รู้จักคนหนึ่งผู้เลื่อมใสในพระคริสต์ เขาถูกรับขึ้นไปยังสวรรค์ชั้นที่สาม (แต่จะไปด้วยกายหรือไปด้วยปราศจากกายข้าพเจ้าไม่รู้ พระเจ้าทรงทราบ). 3 ข้าพเจ้าได้รู้จักคนเช่นนั้น (แต่จะไปด้วยกายหรือด้วยปราศจากกายข้าพเจ้าไม่รู้ พระเจ้าทรงทราบ) ว่าเขาถูกรับขึ้นไปยังเทพอุทยาน, 4 และได้ยินสำเนียงซึ่งจะพูดเป็นคำไม่ได้. และมนุษย์จะบรรยายไม่ได้เลย. 5 สำหรับคนเช่นนั้นข้าพเจ้าจะอวดได้, แต่สำหรับตัวข้าพเจ้าเอง ข้าพเจ้าจะไม่อวดเลย, นอกจากในการอ่อนแอของข้าพเจ้า. 6 เพราะว่าถึงแม้ข้าพเจ้าจะใคร่อวด. ข้าพเจ้าก็ไม่ใช่คนเขลา เพราะข้าพเจ้าพูดตามความจริง. แต่ข้าพเจ้างดไว้ ก็เพราะเกรงว่าบางคนจะยกย่องข้าพเจ้าเกินกว่าที่เขาได้รู้ได้เห็นจากข้าพเจ้า. 7 และเพื่อไม่ให้ข้าพเจ้ายกย่องตัวขึ้นเกินขนาด, เนื่องจากที่ได้เห็นการสำแดงอันใหญ่ยิ่งนั้น. ก็ทรงบันดาลให้มีเสี้ยนหนามในเนื้อหนังของข้าพเจ้า ซึ่งเป็นทูตของซาตานคอยทุบตีข้าพเจ้าไม่ให้ข้าพเจ้าถือตัวเกินขนาด. 8 เรื่องหนามนั้น ข้าพเจ้าได้อธิษฐานองค์พระผู้เป็นเจ้าถึงสามครั้งให้มันหลุดออกไปจากข้าพเจ้า. 9 พระองค์จึงตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า, “ความกรุณาคุณของเรามีพอสำหรับเจ้าแล้ว เพราะโดยความอ่อนแอของเจ้า เดชของเราจึงปรากฏมีฤทธิ์ขึ้นเต็มขนาด.” เหตุฉะนั้นข้าพเจ้าจึงภูมิใจในความอ่อนแอของข้าพเจ้า. เพื่อฤทธิ์เดชของพระคริสต์จะได้สถิตอยู่ในข้าพเจ้า. 10 เหตุฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงชื่นใจในความอ่อนแอของข้าพเจ้า. ในเหตุร้ายต่างๆ, ในการยากลำบาก. ในการถูกข่มเหง, ในความอับจน, เพราะเห็นแก่พระคริสต์ ด้วยว่าข้าพเจ้าอ่อนแอเมื่อใด, ข้าพเจ้าจึงแข็งแรงมากเมื่อนั้น 11 ในการอวดนั้น ข้าพเจ้าก็เป็นคนเขลาแล้ว แต่ว่าท่านทั้งหลายบังคับข้าพเจ้าให้ทำ เพราะว่าสมควรแล้วซึ่งท่านทั้งหลายจะยกย่องข้าพเจ้า เหตุว่าข้าพเจ้าไม่ต่ำต้อยกว่าอัครสาวกเขื่องๆ เหล่านั้นในประการใดเลย, ถึงข้าพเจ้าไม่วิเศษอะไรนักก็จริง. 12 แท้จริงลักษณะของอัครสาวกก็ได้สำแดงให้ประจักษ์แจ้งท่ามกลางท่านทั้งหลายแล้วด้วยความเพียรโดยนิมิตต์, โดยการอัศจรรย์และโดยการอิทธิฤทธิ์. 13 ด้วยว่าพวกท่านเสียเปรียบคริสตจักรอื่นๆ ในประการใดเล่า. เว้นไว้ในข้อนี้ คือที่ข้าพเจ้าไม่ได้เป็นภาระแก่พวกท่าน? การผิดนั้นขอท่านให้อภัยแก่ข้าพเจ้าเถิด เปาโลยินดีที่จะสละแรงหมด 14 นี่แน่ะ, ข้าพเจ้าเตรียมพร้อมที่จะมาเยี่ยมพวกท่านเป็นครั้งที่สาม. และข้าพเจ้าจะไม่เป็นภาระแก่พวกท่าน เพราะว่าข้าพเจ้าไม่ต้องการทรัพย์สมบิตของท่าน, แต่ต้องการตัวท่าน เพราะว่าที่ลูกจะส่ำสมไว้สำหรับพ่อแม่ก็ไม่สมควร, แต่พ่อแม่ควรส่ำสมไว้สำหรับลูก. 15 และข้าพเจ้ามีความยินดีที่จะสละแรงหมดเพื่อท่านทั้งหลาย. เมื่อข้าพเจ้ารักท่านมากถึงเพียงนี้, ท่านจะกลับรักข้าพเจ้าน้อยลงหรือ 16 ถูกละข้าพเจ้าเองมิได้เป็นภาระแก่พวกท่าน. แต่ (ท่านคงพูดว่า) ข้าพเจ้าใช้กุศโลบายดักจับท่าน. 17 ข้าพเจ้าได้ผลประโยชน์อะไรจากพวกท่านในการที่ส่งคนเหล่านั้นไปเยิ่ยมพวกท่านหรือ 18 ข้าพเจ้าได้ขอให้ติโตไป, และใช้พี่น้องอีกคนหนึ่งให้ไปด้วย. ติโตได้ผลประโยชน์อะไรจากพวกท่านบ้างหรือ เราทั้งสองมิได้ดำเนินการด้วยน้ำใจอย่างเดียวกันหรือ เรามิได้เดินในรอยอันเดียวกันหรือ เปาโลพูดอย่างคนที่อยู่ในพระคริสต์ 19 ท่านทั้งหลายยังคิดว่าเรากำลังกล่าวแก้ตัวต่อท่านหรือ เราพูดอย่างคนที่อยู่ในพระคริสต์จำเพาะพระพักตรพระเจ้า ดูก่อนท่านที่รักของข้าพเจ้า, สิ่งสารพัตรซึ่งเราได้กระทำนั้น, เราได้กระทำเพื่อท่านทั้งหลายจะจำเริญขึ้น. 20 ด้วยว่าข้าพเจ้าเกรงว่า, เมื่อข้าพเจ้ามาถึง, ข้าพเจ้าจะไม่เห็นพวกท่านเหมือนอย่างที่ข้าพเจ้าอยากเห็น, และท่านจะไม่เห็นข้าพเจ้าเหมือนอย่างที่ท่านอยากเห็น คือเกรงว่าไม่เหตุใดก็เหตุหนึ่ง จะมีการวิวาทกัน, ริษยากัน, โกรธกัน, ถือก๊กถือหมู่กัน, นินทากัน, ซุบซิบส่อเสียดกัน, จองหองพองตัว, และเกะกะวุ่นวายกัน. 21 และเกรงว่า, เมื่อข้าพเจ้ากลับมา, พระเจ้าจะทรงบันดาลให้ข้าพเจ้าขายหน้าเพราะเหตุท่านทั้งหลาย, และข้าพเจ้าจะเศร้าใจ เพราะเหตุหลายคนที่ได้ทำผิดมาก่อนแล้ว, และมิได้กลับใจทิ้งการโสโครก และการผิดประเวณี และการลามกซึ่งเขาได้กระทำนั้น |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society