2โครินธ์ 11 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ข้าพเจ้าอยากจะขอให้ท่านทั้งหลายทนฟังความเขลาของข้าพเจ้าสักหน่อยหนึ่ง แต่ที่จริงท่านก็ทนอยู่แล้ว. 2 เพราะว่าข้าพเจ้าหวงแหนท่านทั้งหลายตามอย่างความหวงแหนของพระเจ้า เหตุว่าข้าพเจ้าได้มั่นพวกท่านไว้สำหรับสามีผู้เดียว, เพื่อจะได้ถวายพวกท่านให้แก่พระคริสต์เป็นพรหมจารีอันบริสุทธิ์. 3 แต่ข้าพเจ้าเกรงว่า, งูนั้นได้ล่อลวงนางฮาวาด้วยอุบายของมันฉันใด จะมีเหตุอันหนึ่งอันใดล่อลวงจิตต์ใจของท่านทั้งหลายให้หลงจากความสัตย์ซื่อ และความบริสุทธิ์ต่อพระคริสต์ฉันนั้น. 4 ถ้าคนใดจะมาเทศนาสั่งสอนถึงพระเยซูซึ่งแตกต่างกับที่เราได้เทศนาสั่งสอนนั้น. หรือถ้าท่านจะรับพระวิญญาณซึ่งแตกต่างกับที่ท่านได้รับแต่ก่อน. หรือกิตติคุณซึ่งแตกต่างกับที่ท่านได้รับไว้แล้ว. แหม. ท่านทั้งหลายช่างอดทนสนใจฟังเขาเสียจริงๆ 5 เพราะข้าพเจ้าคิดเห็นว่า. ข้าพเจ้าไม่ต่ำต้อยกว่าอัครสาวกเขื่องๆ เหล่านั้นในประการหนึ่งประการใดเลย. 6 แม้ถ้อยคำของข้าพเจ้าไม่ไพเราะ, แต่ข้าพเจ้าก็ยังมีความรู้ ที่จริงเราก็ได้แสดงข้อนี้ให้ประจักษ์แจ้งท่ามกลางท่านทั้งหลายในกิจการทุกสิ่งแล้ว เปาโลมิได้เป็นภาระแก่ผู้ใด 7 ข้าพเจ้าได้กระทำผิดในการซึ่งข้าพเจ้าได้ถ่อมใจลงเพื่อยกชูท่านทั้งหลายขึ้น, คือเพราะข้าพเจ้าได้ประกาศกิตติคุณของพระเจ้าแก่พวกท่านโดยไม่ได้รับค่าจ้างหรือ 8 ข้าพเจ้าได้ปล้นคริสตจักรอื่นในการที่ข้าพเจ้าได้รับเงินบำรุงจากเขา, เพื่อจะได้ปฏิบัติพวกท่าน 9 และเมื่อข้าพเจ้าได้อยู่กับพวกท่าน และกำลังขาดแคลน, ข้าพเจ้าก็มิได้เป็นภาระแก่ผู้ใด, เพราะว่าพี่น้องที่มาจากมณฑลมากะโดเนียได้เจือจานให้พอแก่ความต้องการของข้าพเจ้า. ข้าพเจ้าได้ระวังไม่ให้ตัวข้าพเจ้าเป็นภาระแก่พวกท่าน, และข้าพเจ้าจะระวังตัวเช่นนั้นต่อไป. 10 โดยเหตุที่ความจริงของพระคริสต์อยู่ในข้าพเจ้า, ไม่มีคนหนึ่งคนใดในมณฑลอะฆายะจะห้ามข้าพเจ้าไม่ให้อวดการนั้นได้. 11 เพราะเหตุอะไร? เพราะข้าพเจ้าไม่ได้รักพวกท่านหรือ พระเจ้าทรงทราบว่ารัก 12 แต่การซึ่งข้าพเจ้ากระทำนั้นข้าพเจ้าจะกระทำต่อไป, เพื่อไม่ให้คนเหล่านั้นที่หาโอกาสมีช่องที่จะพูดได้ว่า ในข้อที่เขาอวดนั้นเขาจะได้ปรากฏว่ามีสภาพเหมือนกับเรา. 13 เพราะว่าคนอย่างนั้นเป็นอัครสาวกเท็จ, เป็นคนงานไม่สัตย์ซื่อ, ปลอมตัวเป็นอัครสาวกของพระคริสต์. 14 แต่การนั้นไม่แปลกประหลาดเลยถึงซาตานเองก็ยังปลอมตัวเป็นทูตแห่งความสว่างได้. 15 เหตุฉะนั้นไม่เป็นการสำคัญอะไรซึ่งผู้รับใช้ของซาตานนั้นจะปลอมตัวเป็นคนรับใช้ของความชอบธรรมที่สุดปลายของคนเหล่านั้นจะเป็นไปตามกิจการของเขา 16 ข้าพเจ้าขอซ้ำกล่าวอีกว่า, อย่าให้ใครเห็นไปว่าข้าพเจ้าเป็นคนเขลา, แต่ถ้ามี, ก็ให้เขารับรองข้าพเจ้าอย่างรับรองคนเขลาเถิด, เพื่อข้าพเจ้าจะอวดตัวได้บ้าง. 17 ที่ข้าพเจ้าพูดอย่างนั้นข้าพเจ้ามิได้พูดอย่างองค์พระผู้เป็นเจ้า, แต่พูดอย่างคนเขลาด้วยไว้ใจตัวในการอวดนั้น. 18 เพราะเมื่อหลายคนเคยอวดอย่างเนื้อหนัง, ข้าพเจ้าก็จะอวดด้วย. 19 เพราะว่าท่านทั้งหลายยอมอดทนฟังคนเขลาด้วยความยินดีเสียจริงๆ น่าจะเป็นเพราะท่านทั้งหลายเป็นคนมีปัญญาอยู่แล้ว. 20 เพราะว่าถ้ามีผู้ใดจูงท่านทั้งหลายไปเป็นทาส, ถ้าผู้ใดมากินเลือดกินเนื้อของท่าน, ถ้าผู้ใดมาจับตัวท่านไปหลอกใช้, ถ้าผู้ใดยกตัวเองเป็นใหญ่, ถ้าผู้ใดตบหน้าท่าน. ท่านทั้งหลายก็ยอมทนเอา เปาโลทนเอาหลายประการ เปาโลเผชิญภัยหลายประการ 21 ข้าพเจ้าพูดโดยความอายว่า, ฝ่ายเราอ่อนกำลังสู้เขาไม่ไหวเลย แต่ถ้าคนใดมีใจกล้าในประการใด, (ข้าพเจ้าพูดตามภาษาคนเขลา) ข้าพเจ้าก็มีใจกล้าด้วย. 22 เขาเป็นชาตเฮ็บราฆหรือ ข้าพเจ้าก็เป็นด้วย. เขาเป็นชาติยิศราเอลหรือ ข้าพเจ้าก็เป็นด้วย. เขาเป็นเผ่าพันธุ์ของอับราอามหรือ ข้าพเจ้าก็เป็นด้วย. 23 เขาเป็นคนรับใช้ของพระคริสต์หรือ ข้าพเจ้าพูดอย่างคนบ้า ข้าพเจ้าทำเกินกว่าเขาอีก คือในกิจการต่างๆ ข้าพเจ้าทำมากกว่าเขา. ในการถูกติดคุก ข้าพเจ้าก็ติดมามากกว่าเขา, ในการถูกโบยตี ข้าพเจ้าก็ถูกเกินขนาด, ในการเผชิญภัยน่ากลัวตาย ข้าพเจ้าก็ถูกบ่อยๆ. 24 พวกยูดายได้เฆี่ยนข้าพเจ้าห้าครั้งๆ ละสามสิบเก้าที. 25 เขาเฆี่ยนข้าพเจ้าด้วยหวายสามครั้ง, เขาเอาก้อนหินขว้างข้าพเจ้าครั้งหนึ่ง, ข้าพเจ้าเผชิญภัยเรือแตกสามครั้ง, ข้าพเจ้าอยู่ในทะเลวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง 26 ข้าพเจ้าได้เที่ยวไปบ่อยๆ, เผชิญภัยอันน่ากลัวในแม่น้ำ, เผชิญโจรภัย, เผชิญภัยในพวกพี่น้องของข้าพเจ้าเอง, เผชิญภัยกับคนต่างชาติ, เผชิญภัยในเมือง, เผชิญภัยในป่า, เผชิญภัยในทะเล, เผชิญภัยท่ามกลางพี่น้องทรยศ. 27 ด้วยทำการเหน็ดเหนื่อยและยากลำบาก, ด้วยการอดหลับอดนอนบ่อยๆ ด้วยอดข้าวอดน้ำ ด้วยทนหนาวและเปลือยกาย. 28 และนอกจากนั้นยังมีการอื่นที่บีบข้าพเจ้าอยู่ทุกวันๆ, คือความปรารภปรารมภ์ถึงคริสตจักรทั้งปวง. 29 มีใครบ้างเป็นคนอ่อนกำลังและข้าพเจ้าไม่ได้แสดงตัวเป็นคนอ่อนกำลัง? มีใครบ้างที่ถูกนำให้สะดุดและข้าพเจ้าไม่เป็นทุกข์เป็นร้อนด้วย? 30 ถ้าข้าพเจ้าจำเป็นต้องอวด, ข้าพเจ้าก็จะอวดการที่ข้าพเจ้าทำเป็นคนอ่อนกำลัง. 31 พระเจ้าคือพระบิดาแห่งพระเยซูคริสต์เจ้าของเรา, คือพระองค์ผู้ทรงไว้ซึ่งความบรมสุขเป็นนิตย์, ทรงทราบว่าข้าพเจ้าไม่ได้พูดมุสา. 32 ผู้สำเร็จราชการของกษัตริย์อาริตาในเมืองดาเมเซ็กจึงให้ทหารเฝ้าเมืองดาเมเซ็กไว้เพื่อจะจับตัวข้าพเจ้า. 33 แต่เขาเอาตัวข้าพเจ้าใส่กะบุงใหญ่ หย่อนลงจากช่องที่กำแพงเมือง, ข้าพเจ้าจึงพ้นจากเงื้อมมือของท่าน |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society