1เธสะโลนิกา 2 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940พระเจ้าทรงเป็นพะยานฝ่ายเรา 1 ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย. ท่านเองก็ทราบว่า, การที่เรามาหาท่านทั้งหลายนั้นหาได้มาเปล่าๆ ไม่ 2 แต่ถึงแม้เราต้องทนการยากลำบากมาก่อนและได้รับการอัปยศต่างๆ ที่เมืองฟิลิปปอย, ตามที่ท่านทั้งหลายก็ทราบอยู่แล้ว, เราก็ยังมีใจกล้าในพระเจ้าของเรา ประกาศกิตติคุณของพระเจ้าแก่ท่านทั้งหลายโดยการผจญเป็นอันมาก. 3 เพราะว่าคำเตือนสติของเราไม่ใช่เมื่องมาจากความเข้าใจผิด, หรือการโสโครก, หรือการอุบาย. 4 แต่ว่าพระเจ้าทรงเห็นชอบที่จะมอบกิตติคุณไว้กับเราฉันใด, เราจึงกล่าวไปฉันนั้น ไม่ใช่จะให้เป็นที่ชอบใจมนุษย์, แต่จะให้เป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้าผู้ทรงชันสูตรใจเราทั้งหลาย. 5 เพราะว่าเราไม่ได้ใช้คำขอเวลาใดเลย, ตามที่ท่านทั้งหลายรู้แล้ว, หรือมิได้ใช้คำเคลือบคลุมหุ้มห่อความโลภ, พระเจ้าทรงเป็นพะยานฝ่ายเรา, 6 และถึงเราเป็นอัครสาวกของพระคริสต์และมีอำนาจมาก, เราไม่ได้แสวงหาเกียรติยศจากมนุษย์, จะเป็นจากท่านทั้งหลายหรือจากคนอื่นก็ดี 7 แต่เราได้อยู่ท่ามกลางท่านทั้งหลายโดยใจอ่อนสุภาพ, และเหมือนพี่เลี้ยงที่เลี้ยงรักษาลูกของตน. 8 เรามีความรักท่านทั้งหลายอย่างนี้แหละ, ไม่ใช่ปรารถนาจะให้กิตติคุณของพระเจ้าแก่ท่านเท่านั้น, แต่มีใจพร้อมที่จะพลีชีวิตของเราให้แก่ท่านด้วย, เพราะท่านเป็นที่รักของเรามากยิ่ง 9 ด้วยว่า, ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย, ท่านคงระลึกได้ถึงการงานเหน็ดเหนื่อยและยากลำบากของเรา, เพราะว่าเราได้ประกาศกิตติคุณของพระเจ้าให้ท่านฟัง, และกระทำการทั้งกลางวันและกลางคืน, เพื่อเราจะมิได้เป็นภาระแก่ผู้หนึ่งผู้ใดในพวกท่าน. 10 ท่านทั้งหลายเป็นพะยานฝ่ายเรา, และพระเจ้าก็ทรงเป็นพะยานด้วย, ว่าเราได้ประพฤติตามอย่างที่บริสุทธิ์และสุจริต และปราศจากตำหนิท่ามกลางท่านทั้งหลายที่เชื่อ 11 เหมือนท่านทั้งหลายรู้แล้วว่า, เราได้เตือนสติและหนุนน้ำใจและกำชับท่านทุกคนดุจดังบิดากับบุตรของตน, 12 เพื่อจะให้ท่านทั้งหลายประพฤติอย่างที่สมควรจะประพฤติต่อพระเจ้า, ผู้ได้ทรงเรียกท่านให้เข้าในแผ่นดินและสง่าราศีของพระองค์ 13 เพราะเหตุนี้เราจึงขอบพระคุณพระเจ้าไม่หยุดหย่อน เพราะว่าเมื่อท่านทั้งหลายได้รับคำของพระเจ้า ซึ่งท่านได้ยินจากเรา, ท่านไม่ได้รับไว้อย่างเป็นคำของมนุษย์, แต่ได้รับไว้อย่างเป็นคำของพระเจ้า, แล้วก็เป็นคำอย่างนั้นจริงๆ ด้วย, ซึ่งกำลังกระทำกิจอยู่ภายในท่านทั้งหลายที่เชื่อ. 14 ด้วยว่า, ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย, ท่านได้กระทำตามเยี่ยงอย่างคริสตจักรของพระเจ้าในประเทศยูดายที่อยู่ฝ่ายพระเยซูคริสต์ เพราะว่าท่านได้รับทนลำบากจากพลเมืองของตน เหมือนอย่างเขาเหล่านั้นได้ทนลำบากจากพวกยูดาย. 15 พวกยูดายนั้นได้ปลงพระชนม์พระเยซูเจ้า, และได้ประหารชีวิตพวกศาสดาพยากรณ์, และได้ขับไล่พวกเราออก และการนั้นไม่เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า, ทั้งเป็นปฏิปักข์กับคนทั้งปวง, 16 โดยที่เขาได้ห้ามไม่ให้เรากล่าวแสดงแก่คนต่างชาติ เพื่อจะให้พวกนั้นรอดได้ เพื่อให้การผิดของเขาเต็มเปี่ยมขึ้นทุกที่ แต่พระอาชญาทรงลงบนเขาจนถึงที่สุด ท่านเป็นสง่าราศีของเรา 17 แต่ว่า, ดูก่อนพวกพี่น้อง, เมื่อเรากำลังถูกพรากไปจากท่านชั่วเวลาหนึ่ง, แต่ก็เป็นแต่กายเท่านั้นไม่ใช่จิตต์ใจ, เราจึงมีความปรารถนาอย่างยิ่งที่จะเห็นหน้าท่านอีก 18 เพราะเหตุนั้นเราอยากมาหาท่านทั้งหลาย, ข้าพเจ้าคือเปาโลก็อยากมาหนแล้วหนเล่า, แต่ซาตานได้ขัดขวางเราไว้. 19 ด้วยว่าอะไรจะเป็นความหวัง หรือความชื่นชม หรือมงกุฏสำหรับมีหน้ามีตาของเรา? ก็มิใช่ท่านทั้งหลายหรือ, จำเพาะพระพักตรพระเยซูคริสต์เจ้า เมื่อพระองค์จะเสด็จมา? 20 เพราะว่าท่านทั้งหลายเป็นสง่าราศีและความยินดีของเรา |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society