1ซามูเอล 22 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ฝ่ายดาวิดจึงออกจากที่นั่นหนีไปยังถ้ำอะดูลาม, ครั้นพี่น้องกับบรรดาวงศ์ญาติบิดาของท่าน, ได้รู้เรื่องก็พากันลงไปหาท่านที่นั่น. 2 บรรดาชนที่ทุกข์ยากมีหนี้สินและเข็ญใจ, ได้พร้อมกันมาหาท่าน, และท่านได้เป็นหัวหน้าเขาเหล่านั้นมีพรรคพวกอยู่ด้วย, ประมาณสี่ร้อยคน 3 ดาวิดออกจากที่นั้นไปยังเมืองมิศเป, ในแผ่นดินโมอาบกราบทูลพระเจ้าแผ่นดินนั้นว่า, ขอโปรดให้บิดามารดาของข้าพเจ้าอพยพมาอาศัยอยู่กับพระองค์ กว่าข้าพเจ้าจะได้ทราบว่าพระเจ้าจะทรงกระทำประการใดกับข้าพเจ้า. 4 ดาวิดก็พาบิดามารดาเข้าเฝ้ากษัตริย์โมอาบ แล้วได้อาศัยอยู่ในราชวังตลอดเวลาที่ดาวิดพักพิงอยู่ที่ถ้ำนั้น. 5 ส่วนฆาตผู้พยากรณ์จึงทูลดาวิดว่า, อย่าอาศัยอยู่ในถ้ำนี้เลย, จงเข้าไปอยู่ในเขตต์แผ่นดินยูดา, ดาวิดก็เข้าไปในป่าไม้เฮเร็ธ. 6 ซาอูลทรงทราบว่ามีผู้พบปะดาวิดทั้งพรรคพวก, ขณะเมื่อทรงประทับอยู่ที่ฆิบอาใต้ต้นสนที่เมืองรามา, ทรงถือหอกซัดอยู่ และบรรดาข้าราชการยืนเฝ้าอยู่รอบพระองค์. 7 ซาอูลดำรัสแก่ข้าราชการที่ยืนเฝ้าอยู่นั้นว่า, ชนตระกูลเบ็นยามินจงฟังเถิด, บุตรยิซัยจะให้ไร่นาและสวนองุ่นแก่เจ้าทุกคนหรือ? จะตั้งเจ้าทุกคนเป็นนายพันนายร้อยหรือ? 8 พวกเจ้าทุกคนได้คบคิดกบฏต่อเรา, หามีผู้ใดแจ้งแก่เราไม่, เมื่อบุตรของเราได้กระทำไมตรีกับบุตรยิซัยนั้น, ในพวกเจ้าหามีผู้ใดเป็นทุกข์ด้วยเราไม่, และไม่มีผู้ใดบอกว่า, บุตรเราได้ยุยงข้าราชการให้ต่อต้านเรา, เช่นกับมั่วสุมกันอยู่วันนี้? 9 โดเอฆชาติอะโดมผู้ยืนอยู่กับข้าราชการของซาอูลกราบทูลว่า, ข้าพเจ้าได้เห็นบุตรยิซัยมายังเมืองโนบมาหาอะฮีเมเล็คบุตรอะฮีธูปนั้น. 10 อะฮีเมเล็คได้ทูลพระยะโฮวาแทนดาวิด, ทั้งให้สะเบียง, และกระบี่ของฆาละยัธชาติฟะลิศตีมด้วย 11 กษัตริย์จึงรับสั่งให้คนไปเรียกอะฮีเมเล็คปุโรหิต, บุตรอะฮีธูป, กับบรรดาวงศ์ญาติบิดาของตนคือพวกปุโรหิตในเมืองโนบนั้น, เขาทั้งหลายจึงมาเฝ้ากษัตริย์ทั้งสิ้น. 12 ซาอูลจึงมีดำรัสว่า, บุตรอะฮีธูปจงฟังเถิด, เขากราบทูลว่า, ข้าแต่กษัตริย์ข้าพเจ้าอยู่นี่. 13 ซาอูลทรงตรัสว่า, เหตุไรเจ้ากับบุตรยิซัยได้พากันคิดกบฏต่อเรา, ด้วยเจ้าให้สะเบียง, และกระบี่แก่เขา, และได้ทูลต่อพระเจ้าแทนเขา เพื่อเขาจะได้คิดกบฏต่อเรา, เช่นกับมั่วสุมกันอยู่วันนี้? 14 อะฮีเมเล็คจึงกราบทูลว่า, ในบรรดาข้าราชการมีผู้ใดบ้างที่จะไว้ใจได้เหมือนดาวิดราชบุตรเขยของกษัตริย์ซึ่งเป็นที่ปรึกษา, และมียศศักดิ์ในพระราชมณเฑียรของพระองค์? 15 ข้าพเจ้าตั้งตนทูลต่อพระเจ้าเพื่อเขาแต่ในวันนั้นหรือ? ข้าแต่กษัตริย์ ขออย่าทรงถือโทษข้าพเจ้ากับบรรดาวงศ์ญาติของบิดาข้าพเจ้าเลย, ด้วยการทั้งนี้ข้าพเจ้าหาได้ทราบไม่มากหรือน้อย. 16 กษัตริย์ทรงตรัสว่า, อะฮีเมเล็คเจ้าต้องรับโทษถึงแก่ชีวิตเป็นแน่, ทั้งบรรดาพงศ์บิดาของเจ้าด้วย. 17 กษัตริย์จึงรับสั่งทหารรักษาพระองค์, ให้คุมปุโรหิตของพระยะโฮวาไปประหารชีวิตเสีย เหตุว่าเขาทั้งหลายร่วมใจกันกับดาวิด, เขารู้แล้วว่าดาวิดหนีไปแต่ไม่ทูลให้เรารู้, แต่ส่วนข้าราชการก็ไม่ยอมลงมือทำแก่ปุโรหิตของพระยะโฮวา. 18 กษัตริย์จึงรับสั่งแก่โดเอฆว่า, เจ้าจงคุมพวกปุโรหิตไปประหารเสีย, โดเอฆชาติอะโดม, จึงได้ฟันฆ่าพวกปุโรหิตที่สรวมผ้าป่านเอโฟด, แปดสิบห้าองค์ในวันเดียวนั้น. 19 ชาวโนบเมืองของปุโรหิตเหล่านั้นทั้งชายหญิงเด็กและลูกอ่อนที่ยังกินนมอยู่, กับทั้งโคลาและแกะก็ต้องฆ่าด้วยคมกระบี่เสียสิ้น 20 แต่มีบุตรชายคนหนึ่งของอะฮีเมเล็ค, ผู้เป็นบุตรอะฮีธูปชื่ออะบีอาธาร, ได้หนีตามดาวิดพ้นไป. 21 อะบีอาธารแจ้งแก่ดาวิดว่า, ซาอูลได้ประหารปุโรหิตของพระยะโฮวาเสียแล้ว, 22 ดาวิดก็บอกอะบีอาธารว่า, เรารู้วันนั้น, ขณะโดเอฆชาติอะโดมอยู่ที่นั่นว่า, เขาคงจะทูลซาอูล, เราเป็นต้นเหตุในการประหารชีวิตบรรดาพงศ์บิดาของท่าน. 23 จงพักอยู่กับเราอย่ากลัวเลย, ด้วยผู้ใดปองร้ายต่อชีวิตของเรา, ผู้นั้นก็ปองร้ายต่อชีวิตของท่านด้วย, แต่ถ้าท่านอยู่กับเราจะพ้นจากอันตราย |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society