1ซามูเอล 12 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ซามูเอลจึงได้กล่าวแก่บรรดาชนยิศราเอลว่า, เราได้เชื่อฟังถ้อยคำของท่านทุกประการ, กษัตริย์ก็ตั้งไว้แล้ว. 2 ดูเถิด บัดนี้กษัตริย์องค์นั้นกำลังจัดราชการต่อหน้าท่าน, ส่วนข้าพเจ้าก็ชราไป, ผมก็หงอก, ดูเถิดบุตรชายของข้าพเจ้าก็อยู่กับพวกท่านแล้ว, ข้าพเจ้าเคยอาศัยอยู่กับท่าน; แต่เด็กมาจนทุกวันนี้. 3 ดูข้าพเจ้าเถิด, จงเป็นพะยานยืนยัน, ฉะเพาะพระพักตรพระยะโฮวาและผู้ที่พระองค์ทรงชะโลมตั้งเป็นกษัตริย์, ว่าข้าพเจ้าได้แย่งชิงโคของใคร? ลาของใคร? ฉัอใคร? ข่มเหงใคร? รับสินบนจากมือใคร? ที่จะบังตาของข้าพเจ้าให้มัวไป? ถ้ามีอย่างนั้นข้าพเจ้าจะคืนให้? 4 เขาทั้งหลายเรียนว่า, ท่านไม่ได้ฉ้อหรือข่มเหงพวกข้าพเจ้า, ไม่ใคร่รับสิ่งใดๆ จากมือผู้หนึ่งผู้ใดเลย. 5 ซามูเอลกล่าวว่า, พระยะโฮวากับผู้ชะโลมของพระองค์เป็นพะยานแก่ท่านทั้งหลายในวันนี้ว่า, ท่านทั้งปวงไม่พบสิ่งใดๆ ที่มือข้าพเจ้า, เขาทั้งหลายเรียนว่า, พระองค์เป็นพะยานแล้ว 6 ซามูเอลจึงกล่าวให้ชนฟังว่า, พระยะโฮวาได้ทรงตั้งโมเซกับอาโรนขึ้น, และทั้งผู้นำปู่ย่าตายายของท่านทั้งหลายขึ้นมาจากแผ่นดินอายฆุบโต. 7 บัดนี้คอยยืนอยู่เถิด เราจะได้กล่าวให้ท่านทั้งหลายฟังฉะเพาะพระพักตรพระยะโฮวา, ด้วยบรรดาการชอบธรรมซึ่งพระองค์ทรงกระทำแก่ท่านทั้งหลาย, และแก่ปู่ย่าตายายของท่าน. 8 เมื่อยาโคบเข้ามาในแผ่นดินอายฆุบโต, และปู่ย่าตายายของท่านก็ร้องทูลต่อพระยะโฮวา, จึงทรงใช้โมเซกับอาโรนให้นำปู่ย่าตายายของท่านออกจากแผ่นดินอายฆุบโต, ให้มาอาศัยอยู่ตำบลนี้. 9 แต่เขาได้ละลืมพระยะโฮวาพระเจ้าของตน, พระองค์จึงทรงมอบเขาไว้ในมือซีซะรานายกองทัพฮาโซร, และในมือของชาติฟะลิศตีม, และในพระหัตถ์กษัตริย์โมอาบ, ให้ทำศึกต่อเขา, 10 เขาจึงพากันร้องทูลต่อพระยะโฮวา รับสารภาพว่า ข้าพเจ้าทำผิดแล้วโดยได้ละทิ้งพระยะโฮวาเสีย ไปปฏิบัติหมู่พระบะอาลีมและอัศธาโรธเหล่านั้น, แต่บัดนี้ขอโปรดช่วยให้ข้าพเจ้าพ้นจากมือศัตรูเพื่อจะได้ปฏิบัติพระองค์ต่อไป. 11 พระยะโฮวาจึงทรงใช้ยะรูบาละ, และบาดาน, และยิพธา, และซามูเอล, ช่วยพวกท่านให้พ้นจากมือศัตรูที่ล้อมอยู่รอบ, ให้ตั้งอยู่โดยสุขสะบาย. 12 แต่เมื่อท่านเห็นนาฮาศกษัตริย์อำโมนยกเข้ามาต่อสู้, ท่านก็เรียนแก่เราว่า, ไม่ใช่, แต่ได้ขอให้มีกษัตริย์ปกครองขณะเมื่อมีพระยะโฮวาเจ้าเป็นกษัตริย์พวกท่านอยู่แล้ว. 13 บัดนี้จงดูกษัตริย์ซึ่งท่านทั้งหลายได้เลือกสรรขอนั้น! พระยะโฮวาทรงประทานให้แล้ว. 14 แม้นว่าท่านทั้งหลายจะเกรงกลัวปฏิบัติเชื่อฟังพระดำรัสของพระยะโฮวา, ไม่ขัดรับสั่ง, แต่ท่านทั้งหลายกับกษัตริย์ของท่านก็พากันดำเนินตามพระยะโฮวาเจ้า (ก็ดีแล้ว). 15 หากว่าไม่เชื่อฟังพระดำรัส ขัดรับสั่ง, พระหัตถ์แห่งพระองค์คงจะเป็นที่ขัดขวางต่อสู้แห่งท่าน, ดุจดังกระทำแก่ปู่ย่าตายายของท่านมาแล้ว. 16 บัดนี้จงยืนนิ่งคอยดูเหตุการณ์ใหญ่นี้, ซึ่งพระยะโฮวาจะทรงกระทำให้ปรากฏขึ้น. 17 ในเวลานี้เป็นฤดูเกี่ยวข้าวสาลีมิใช่หรือ? ข้าพเจ้าจะทูลขอต่อพระยะโฮวา, และพระองค์จะทรงบันดาลให้มีฟ้าร้องและฝนตก, เพื่อให้ท่านทั้งหลายรู้เห็นว่า, ความชั่วซึ่งได้กระทำต่อคลองพระเนตรพระยะโฮวา, ในการขอให้มีกษัตริย์นั้นเป็นการผิดใหญ่. 18 เมื่อซามูเอลกราบทูลพระยะโฮวาพระองค์ทรงบันดาลให้มีฟ้าร้องและฝนตกในวันนั้น, ประชาชนทั้งปวงจึงพากันเกรงกลัวพระยะโฮวาและซามูเอลเป็นอันมาก 19 ชนทั้งปวงเรียนต่อซามูเอลว่า, ขอท่านจงอธิษฐานพระยะโฮวาพระเจ้าของท่าน, เพื่อมิให้ข้าพเจ้าถึงแก่พินาศ, เพราะข้าพเจ้าทั้งปวงได้ผะสมการชั่วนี้, เพิ่มแก่บรรดาการบาปของข้าพเจ้าทั้งหลาย, ด้วยข้าพเจ้าขอกษัตริย์นั้น. 20 ซามูเอลกล่าวแก่ชนนิกรว่า, อย่าวิตกไปเลย, แม้ว่าได้กระทำความชั่วต่างๆ เหล่านี้แล้วอย่างไรๆ ก็ดี, อย่าได้หันหลีกไปจากการติดตามพระยะโฮวา, แต่จงปฏิบัติพระองค์ด้วยสิ้นสุดใจของท่าน. 21 อย่าหันไปตามทางซึ่งเป็นเปล่า, อันหาผลประโยชน์พึงมิได้, เพราะสิ่งเหล่านั้นหามีแก่นสารไม่. 22 ด้วยพระยะโฮวาทรงเห็นแก่พระนามอันเลิศของพระองค์ คงจะไม่ละทิ้งพลไพร่ของพระองค์, แต่ประสงค์จะให้ท่านทั้งหลายเป็นไพร่พลของพระองค์. 23 อีกประการหนึ่ง, ส่วนข้าพเจ้า, ขอพระยะโฮวาทรงห้ามปรามอย่าให้ข้าพเจ้ากระทำผิดต่อพระองค์, โดยเว้นคำอธิษฐานเพื่อท่านทั้งหลาย, แต่ข้าพเจ้าจะสั่งสอนให้ท่านทั้งหลายรู้ทางดี, และทางชอบธรรม. 24 แต่จงเกรงกลัวและปฏิบัติพระยะโฮวา, ด้วยความซื่อสัตย์, และด้วยสิ้นสุดใจ, จงตริตรองดูเหตุการณ์ใหญ่ซึ่งพระองค์ทรงกระทำแก่ท่านทั้งหลาย. 25 หากว่าถ้าขืนทำชั่วร่ำไป, คงจะพากันพินาศทั้งกษัตริย์และราษฎรด้วย |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society