1โครินธ์ 3 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 พี่น้องทั้งหลายข้าพเจ้าจะพูดกับท่านทั้งหลายเหมือนพูดกับผู้ที่อยู่ฝ่ายวิญญาณจิตต์แล้วไม่ได้, แต่ต้องพูดกับท่านทั้งหลายเหมือนผู้ที่อยู่ฝ่ายเนื้อหนัง, คือเหมือนท่านเป็นทารกในพระคริสต์. 2 ข้าพเจ้าได้เลี้ยงท่านทั้งหลายด้วยนํ้านมมิใช่ด้วยอาหารแข็ง เพราะว่าเมื่อก่อนนั้นท่านยังไม่สามารถรับ ถึงแม้เดี๋ยวนี้ท่านก็ยังไม่สามารถ 3 ด้วยว่าท่านทั้งหลายยังอยู่ฝ่ายเนื้อหนังเพราะว่าเมื่อยังอิจฉากัน, ขัดเคืองใจกัน, ท่านไม่ได้อยู่ฝ่ายเนื้อหนังหรือ และไม่ได้ประพฤติตามมนุษย์ธรรมดาดอกหรือ 4 เพราะเมื่อคนหนึ่งว่า, “ข้าพเจ้าเป็นศิษย์ของเปาโล” และอีกคนว่า, “ข้าพเจ้าเป็นศิษย์ของอะโปโล,” ท่านทั้งหลายมิใช่มนุษย์ธรรมดาหรือ พระเจ้าได้ทรงบันดาลให้เกิดผล 5 อะโปโลคือผู้ใด? เปาโลคือผู้ใด? เขาเป็นผู้รับใช้มาแจ้งให้ท่านทั้งหลายเชื่อ ตามซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงโปรดประทานแก่ทุกคน? 6 ข้าพเจ้าได้ปลูกไว้, อะโปโลได้รดนํ้า แต่พระเจ้าได้ทรงบันดาลให้เกิดผล. 7 เพราะฉะนั้นคนที่ปลูกก็ดี, คนที่รดน้ำก็ดี, ไม่เป็นคนสำคัญอะไร แต่พระเจ้าต่างหากซึ่งทรงโปรดให้เกิดผล. 8 คนที่ปลูกและคนที่รดนํ้าก็อยู่จำพวกเดียวกัน, แต่ทุกคนก็จะได้บำเหน็จของตนเองตามการที่ตนได้กระทำไว้นั้น. 9 เพราะว่าเราทั้งหลายเป็นผู้ร่วมทำการด้วยกันกับพระเจ้า ท่านทั้งหลายเป็นไร่นาของพระเจ้า, และเป็นตึกที่พระองค์ทรงสร้าง รากวางไว้แล้วคือพระเยซูคริสต์ 10 ตามพระคุณซึ่งพระเจ้าได้ทรงโปรดประทานแก่ข้าพเจ้า, ข้าพเจ้าเป็นเหมือนนายช่างชำนาญผู้ได้วางรากลงแล้ว, และคนอื่นก็มาก่อขึ้นบนรากนั้น. แต่ทุกคนจงระวังให้ดีว่าจะก่ออย่างไรขึ้นบนรากนั้น. 11 ด้วยว่าผู้ใดจะวางรากชะนิดอื่นอีกไม่ได้. นอกจากที่วางไว้แล้วคือพระเยซูคริสต์. 12 และเขาจะเอาทองคำ. เงิน. หรือเพ็ชร์พลอย, หรือจะเอาไม้, หญ้าแห้ง, หรือฟางมาก่อขึ้นบนรากนั้น 13 การของทุกคนก็จะได้ปรากฏแจ้ง. ด้วยว่าเวลาวันนั้นจะเห็นได้ชัดเจน. เหตุว่าจะเห็นชัดได้ด้วยไฟ และไฟนั้นจะได้ทดลองดูการของทุกคนว่าเป็นอย่างไร. 14 ถ้าการของผู้ใดที่ก่อขึ้นบนรากนั้นทนอยู่ได้. ผู้นั้นจะได้บำเหน็จ. 15 ถ้าการของผู้ใดไหม้เสีย. ผู้นั้นก็จะขาดบำเหน็จ แต่ตัวเขาเองจะรอดแต่เหมือนดังรอดจากไฟ 16 ท่านทั้งหลายไม่รู้หรือว่าตัวท่านเป็นวิหารของพระเจ้า, และพระวิญญาณของพระเจ้าสถิตอยู่ในตัวท่าน? 17 ถ้าผู้ใดทำลายวิหารของพระเจ้า. พระเจ้าจะทรงทำลายผู้นั้น ด้วยวิหารของพระเจ้าเป็นที่บริสุทธิ์. และท่านทั้งหลายเป็นวิหารนั้น 18 อย่าให้ผู้ใดหลอกลวงตัวเอง. ถ้าผู้ใดในพวกท่านคิดว่าตัวเป็นคนมีปัญญาในสมัยนี้. จงให้ผู้นั้นยอมเป็นคนโง่จึงจะเป็นคนมีปัญญาได้. 19 เพราะว่าปัญญาของโลกนี้เป็นอปัญญาฉะเพาะพระเจ้า. ด้วยมีคำเขียนไว้แล้วว่า, พระองค์ได้ทรงจับคนมีปัญญาด้วยอุบายของเขาเอง 20 และมีคำเขียนไว้แล้วอีกว่า, พระเจ้าได้ทรงทราบความคิดของคนมีปัญญาว่าเป็นการไร้ประโยชน์. 21 เหตุฉะนั้นอย่าให้ผู้ใดยกมนุษย์ขึ้นอวด. ด้วยว่าสิ่งสารพัตรเป็นของๆ ท่านทั้งหลาย 22 ถึงแม้จะเป็นเปาโล, หรืออะโปโล. หรือเปโตร, หรือโลกนี้, หรือชีวิต. หรือความตาย. หรือสิ่งในปัจจุบันนี้. หรือสิ่งในอนาคต, สิ่งสารพัตรนั้นเป็นของๆ ท่านทั้งหลาย 23 และท่านทั้งหลายเป็นของๆ พระคริสต์ และพระคริสต์เป็นของๆ พระเจ้า |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society