1พงศาวดาร 19 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ครั้นอยู่มาภายหลัง, นาฮาศที่เป็นกษัตริย์ของประเทศอำโมนสิ้นพระชนม์แล้ว, ราชบุตรของท่านจึงได้ครอบครองแทน. 2 กษัตริย์ดาวิดจึงตรัสว่า, เราจะแสดงความชอบแก่ฮานูนราชบุตรของกษัตริย์นาฮาศ, ด้วยราชบิดาของท่านได้แสดงความชอบไว้ต่อเรา. ดาวิดจึงได้ใช้ราชทูตไปเจ้าเพื่อจะบรรเทาความทุกข์ของท่านเพราะราชบิดาของท่านสิ้นพระชนม์. ราชทูตของกษัตริย์ดาวิดไปยังแผ่นดินอำโมนเฝ้าฮานูนและจะได้บรรเทาทุกข์ของท่าน. 3 แต่เสนาบดีของพวกอำโมนทูลกษัตริย์ฮานูนว่า, ท่านหมายว่าดาวิดกระทำการนี้จะให้เป็นเกียรติยศแก่บิดาของท่านหรือ, จึงใช้คนมาเล้าโลมท่าน? ราชทูตพวกนี้มาสอดแนมหาเหตุจะตีแผ่นดินให้ล่มมิใช่หรือ? 4 ฮานั้นจึงจับราชทูตของดาวิด, โกนหนวดและตัดเสื้อผ้าขาดครั้งหนึ่งเหลือเพียงตะโพกแล้วไล่ไป. 5 มีบางคนไปทูลดาวิดให้ทราบ, แล้วท่านจึงใช้คนออกไปต้อนรับ: ด้วยว่าพวกราชทูตนั้นมีความละอายมาก. กษัตริย์จึงรับสั่งว่า, จงให้รออยู่ที่เมืองยะริโฮก่อน, จนหนวดงอกขึ้นแล้วจึงเข้ามาเถิด 6 ครั้นชนชาติอำโมนเห็นว่าได้กระทำให้ดาวิดเกลียดชังเข้ามากแล้ว, กษัตริย์ฮานูนและพวกอำโมนจึงฝากเงินพันตะลันต์ไปจ้างรถรบและทหารม้าที่เมืองเมโซปะตาเมีย, และที่เมืองอารามมะคาและที่กรุงโซบา. 7 เขาไปจ้างรถรบได้สามหมื่นสองพันคัน, กับกษัตริย์มาคาทั้งพลทหารของท่านก็มาตั้งกระบวนทัพตรงหน้าเมืองเมดะบา, และพวกอำโมนก็ยกมาจากเมืองของตน, รวมเข้ากันจะทำการศึก. 8 ครั้นดาวิดทราบความ, จึงให้โยอาบยกบรรดาพลกล้าหาญในกองทัพออกไป. 9 ส่วนพวกอำโมนได้ออกมาตั้งกระบวนทัพที่หน้าประตูเมือง: กองทัพของเหล่ากษัตริย์ที่ได้ยกมารับอาษานั้นตั้งอยู่ที่นอกเมืองต่างหาก 10 ครั้นโยอาบเห็นพวกข้าศึกขนาบเข้ามาทั้งหน้าหลัง, จึงเลือกเอาบรรดาคนแกล้วกล้าในพวกยิศราเอลให้ยกไปต่อสู้พวกซุเรีย. 11 ส่วนกองทัพที่เหลืออยู่นั้นได้มอบไว้ในอำนาจอะบีซัยน้องชาย, ให้ไปสู้รบกับชนชาติอำโมน. 12 สั่งว่า, ถ้ากองทัพซุเรียมีกำลังมากกว่าเรา, เจ้าจงยกมาช่วยเถิด: ถ้ากองทัพอำโมนมีกำลังมากกว่าเจ้า, เราจะยกมาช่วยเจ้า. 13 จงมีใจกล้าหาญ, ให้เราทั้งสองตั้งใจรบด้วยความสามารถเพื่อป้องกันพวกเรา, และบ้านเมืองแห่งพระเจ้าของเรา: ขอพระยะโฮวาทรงกระทำตามที่ชอบพระทัยของพระองค์เถิด. 14 ครั้นโยอาบกับบรรดากองทหารที่อยู่ด้วยตรงเข้าไปสู้รบพวกซุเรีย ๆ นั้นก็แตกหนีไปต่อหน้าท่าน. 15 ครั้นพวกอำโมนเห็นว่าพวกซุเรียแพ้หนีไปแล้ว, เขาก็หนีต่อหน้าอะบีซัยน้องของโยอาบเหมือนกัน, พากันเข้าไปในเมือง. โยอาบจึงกลับไปยังกรุงยะรูซาเลม. 16 ครั้นเมื่อชาวซุเรียเห็นว่าเสียเปรียบต่อพวกยิศราเอล, จงใช้ทูตไปเชิญชนชาติซุเรียที่อยู่ฝั่งแม่น้ำฟากข้างโน้นให้ยกมาช่วย: ส่วนโซบาคนายกองทัพของกษัตริย์ฮาดาระเอ็ะเซ็รนำหน้าพวกทูตนั้น. 17 ครั้นมีผู้แจ้งให้ดาวิดทราบ; ท่านจงเกณฑ์บรรดาชนยิศราเอลยกทพข้ามแม่น้ำยาระเดนมาถึงแล้วจึงตั้งกระบวนทัพจะรบ, และเมื่อดาวิดได้ยกทัพไปจะสู้รบกับพวกซุเรีย, พวกนั้นก็ออกมาต้านท่านไว้. 18 ฝ่ายพวกซุเรียก็แตกหนีต่อหน้าพวกยิศราเอล; ดาวิดได้ฆ่าพลทหารรถรบเจ็ดพันคน, กับทหารราบอีกสี่หมื่นคน, ทั้งได้ฆ่าโซบาคแม่ทัพด้วย. 19 เมื่อข้าราชการฝ่ายกษัตริย์ฮาดาระเอ็ะเซ็รเห็นว่าเสียเปรียบพวกยิศราเอลแล้ว, จึงได้ทำสัญญาไมตรีกับดาวิดยอมเป็นเมืองขึ้น: พวกซุเรียก็ไม่ยอมรับอาษาช่วยพวกอำโมนต่อไป |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society