Biblia Todo Logo
Online nga Bibliya

- Mga paanunsiyo -




อิสยาห์ 30:1 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

1 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “วิบัติแก่ลูกหลานที่ดื้อรั้น แก่ผู้ซึ่งทำตามแผนการที่ไม่ได้มาจากเรา ทำสัญญาไมตรีโดยไม่ได้อาศัยวิญญาณของเรา ทำบาปซ้อนบาป

Tan-awa ang kapitulo Kopyaha


Dugang nga mga bersyon

ฉบับมาตรฐาน

1 “วิบัติแก่ลูกหลานที่กบฏ” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ “ผู้วางแผนงาน แต่ไม่ใช่ของเรา ผู้ทำสนธิสัญญา แต่ไม่ใช่ตามความประสงค์ของเรา เพื่อเพิ่มบาปซ้อนบาป

Tan-awa ang kapitulo Kopyaha

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

1 พระเยโฮวาห์ตรั​สว​่า “​วิบัติ​แก่​ลูกหลานที่​ดื้อดึง ผู้​กระทำแผนงาน แต่​ไม่ใช่​ของเรา ผู้​ปกคลุ​มด​้วยเครื่องปกปิด แต่​ไม่ใช่​ตามน้ำใจเรา เขาจะเพิ่มบาปซ้อนบาป

Tan-awa ang kapitulo Kopyaha

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

1 พระยาห์เวห์​พูดว่า “เฮ้ย ไอ้พวก​ลูกหลาน​ที่ดื้อดึง ไอ้พวกที่​ทำตามแผน แต่​ไม่ใช่​แผนของเรา ไอ้พวกที่​ไปทำ​สนธิสัญญา ทั้งๆที่​เรา​ไม่ได้บอก​ให้เจ้าทำ ไอ้พวกที่​ทำบาป​ซ้ำแล้วซ้ำอีก

Tan-awa ang kapitulo Kopyaha

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

1 พระ​ยะ​โฮ​วา​ได้​ตรัส​ว่า, “วิบัติ​แก่​ลูกหลาน​ที่​ดื้อดึง, ผู้​ที่​ดำเนิน​โครง​การณ์​ซึ่ง​ไม่​ใช่​เป็น​ของ​เรา, และ​ถูก​มิตร​ซึ่ง​ไม่​เป็น​ไป​ตาม​น้ำใจ​ของ​เรา, เป็น​ที่​ซ้ำเติม​เพิ่ม​บาป​ให้​มาก​ขึ้น.

Tan-awa ang kapitulo Kopyaha

พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV)

1 พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​ดังนี้​ว่า “วิบัติ​จง​เกิด​แก่​ลูกๆ ที่​ดื้อรั้น พวก​ที่​ทำ​ตาม​แผนการ​ที่​ไม่​ใช่​ของ​เรา และ​สร้าง​สัมพันธภาพ​ซึ่ง​ไม่​ได้​เกิด​จาก​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​เรา พวก​เขา​จึง​เพิ่มพูน​บาป​ยิ่ง​ขึ้น

Tan-awa ang kapitulo Kopyaha




อิสยาห์ 30:1
48 Cross References  

ตลอดวันเราได้ยื่นมือออก ให้แก่ชนชาติที่ดื้อด้าน ซึ่งดำเนินตามวิถีทางอันไม่ดีไม่งาม ทำตามความคิดจินตนาการของตัวเอง


ฟ้าสวรรค์เอ๋ย จงฟัง! แผ่นดินโลกเอ๋ย! จงฟังเถิด องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เราเลี้ยงลูกๆ มาจนเติบใหญ่ แต่พวกเขากลับกบฏต่อเรา


วิบัติแก่พวกเขา เพราะเขาหลงทางไปจากเรา! หายนะจงมีแก่เขา เพราะเขากบฏต่อเรา! เราปรารถนาจะไถ่เขาเหลือเกิน แต่เขาพูดเท็จกับเรา


แต่เพราะท่านใจแข็งดื้อด้านและไม่ยอมกลับใจ ท่านจึงส่ำสมพระพิโรธให้แก่ตนเองไว้สำหรับวันแห่งพระพิโรธของพระเจ้า เมื่อพระองค์ทรงสำแดงการพิพากษาอันชอบธรรม


ถึงกระนั้นพวกเขาก็กบฏ และทำให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์เสียพระทัย ดังนั้นพระองค์จึงทรงกลับกลายเป็นศัตรูของพวกเขา และพระองค์เองก็ทรงต่อสู้พวกเขา


วิบัติแก่คนเหล่านั้นซึ่งไปยังที่ลึกล้ำ เพื่อซ่อนแผนการของตนไว้จากองค์พระผู้เป็นเจ้า เขาซุ่มทำการของตนในที่มืดและคิดว่า “ใครเล่าจะเห็นเรา? ใครเล่าจะรู้ได้?”


ขณะที่คนชั่วและคนหลอกลวงจะเสื่อมทรามลง ทั้งล่อลวงคนอื่นและถูกคนอื่นล่อลวง


เราจะทำให้หน้าผากของเจ้าเหมือนหินผาที่แข็งแกร่งที่สุดและแข็งแกร่งยิ่งกว่าหินเหล็กไฟ อย่ากลัวหรืออย่าขวัญผวาเพราะพวกเขา แม้ว่าพวกเขาเป็นพงศ์พันธุ์ที่ชอบกบฏ”


พระองค์ตรัสว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย เราจะส่งเจ้าไปยังชนชาติอิสราเอล ไปยังชนชาติที่ชอบกบฏซึ่งได้ทรยศเรา เขากับบรรพบุรุษกบฏต่อเราจนถึงทุกวันนี้


แต่ชนชาตินี้มีใจดื้อด้านและชอบกบฏ พวกเขาได้หันหนีเราไป


คนเหล่านี้เป็นประชากรผู้ทรยศ เป็นลูกหลานที่ชอบหลอกลวง ลูกหลานซึ่งไม่เต็มใจรับฟังคำสอนขององค์พระผู้เป็นเจ้า


ข้าพระองค์ปรารถนาจะอาศัยในพลับพลาของพระองค์เป็นนิตย์ ขอลี้ภัยใต้ร่มปีกของพระองค์ เสลาห์


เมื่อคนเช่นนั้นได้ยินถ้อยคำปฏิญาณนี้ เขาอวยพรตนเองและคิดว่า “ฉันจะยังคงปลอดภัยแม้จะดึงดันดำเนินตามทางของฉันต่อไป” พวกเขาจะนำภัยพิบัติมายังดินแดนที่ชุ่มชื้นและที่แห้งแล้ง


ท่านกบฏต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าเสมอมาตั้งแต่ข้าพเจ้ารู้จักท่านแล้ว


พวกเขาโอบล้อมเยรูซาเล็มเหมือนคนเฝ้านา เพราะเยรูซาเล็มกบฏต่อเรา’ ” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น


แต่ละคนจะเป็นเหมือนที่กำบังลม เป็นที่ลี้ภัยจากพายุ เหมือนธารน้ำหลายสายในถิ่นกันดาร และร่มเงาของศิลาใหญ่ในดินแดนอันแห้งระโหย


“ทุกสิ่งที่ชนชาติเหล่านี้เรียกว่าการคบคิดทรยศ เจ้าอย่าเรียกว่าการคบคิดทรยศ อย่ากลัวสิ่งที่พวกเขากลัว อย่าหวาดหวั่น


จากนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงสร้างกลุ่มเมฆควันในยามกลางวัน และเปลวไฟลุกโชติช่วงในยามกลางคืนเหนือภูเขาศิโยนและเหนือบรรดาผู้ที่ชุมนุมกันอยู่ที่นั่น เหนือสิ่งทั้งหมดเหล่านั้นคือพระเกียรติสิริของพระเจ้าจะเป็นเพดานฟ้า


ทำไมต้องให้โบยอยู่ร่ำไป? ทำไมจึงกบฏซ้ำแล้วซ้ำเล่า? ศีรษะของเจ้าก็ร้าวระบม หัวใจก็ร้าวราน


บัดนี้ เขายิ่งทำบาปมากขึ้น เขาใช้เงินทำรูปเคารพเพื่อตัวเขาเอง เป็นเทวรูปที่ปั้นแต่งขึ้นอย่างชาญฉลาด ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นผลงานของช่างฝีมือ ผู้คนกล่าวถึงคนเหล่านี้ว่า “พวกเขาใช้มนุษย์เป็นเครื่องบูชา และจูบเทวรูปลูกวัว”


วิบัติแก่ผู้ที่ใช้เล่ห์เหลี่ยมลากดึงบาปและความชั่วร้ายไป เหมือนใช้เชือกลากดึงเกวียน


เตียงก็สั้นเกินกว่าจะเหยียดกายนอน ผ้าห่มก็แคบเกินกว่าจะห่มตัวมิด


เจ้าอวดว่า “เราเข้าร่วมพันธสัญญากับความตาย เราทำข้อตกลงกับแดนมรณะไว้แล้ว เมื่อหายนะโหมกระหน่ำมา มันจะแตะเราไม่ได้ เพราะการโกหกเป็นเกราะป้องกันเรา ความเท็จเป็นที่ซ่อนของเรา”


เมื่อคนบอกให้ท่านไปปรึกษาคนทรงเจ้าเข้าผีซึ่งกระซิบกระซาบบ่นพึมพำ ประชาชาติไม่ควรทูลถามพระเจ้าของตนหรือ? เหตุใดไปหารือกับคนตายเพื่อคนเป็น?


จงระลึกเสมอและอย่าลืมที่ท่านเคยยั่วยุพระพิโรธของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านในถิ่นกันดาร ตั้งแต่วันที่ท่านออกจากอียิปต์จนมาถึงที่นี่ ท่านกบฏขัดขืนองค์พระผู้เป็นเจ้าเสมอมา


“แต่นี่พวกท่านเชื้อไม่ทิ้งแถว เดินตามรอยบรรพบุรุษ ทำให้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระพิโรธอิสราเอลยิ่งขึ้น


ผู้นำของเจ้าเป็นกบฏ เป็นเพื่อนกับขโมย ทุกคนรักสินบน ตามล่าของกำนัล พวกเขาไม่ปกป้องลูกกำพร้าพ่อ และไม่พิจารณาคดีของหญิงม่าย


องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเตือนข้าพเจ้าอย่างเข้มงวดไม่ให้ดำเนินตามวิถีทางของชนชาตินี้พระองค์ตรัสว่า


องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “คำสาปแช่งตกอยู่แก่ผู้ที่ไว้วางใจในมนุษย์ พึ่งพละกำลังของเขา และเอาใจออกห่างองค์พระผู้เป็นเจ้า


“พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า จงไปบอกกษัตริย์ยูดาห์ผู้ซึ่งใช้พวกเจ้ามาถามเรานั้นว่า ‘กองทัพของฟาโรห์ซึ่งยกมาเพื่อสนับสนุนเจ้าจะกลับไปยังอียิปต์ดินแดนของตน


“ชนหยิบมือที่เหลือของยูดาห์เอ๋ย องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสสั่งพวกท่านแล้วว่า ‘อย่าไปที่อียิปต์’ จงมั่นใจในข้อนี้ คือข้าพเจ้าขอเตือนท่านในวันนี้


พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย คนเหล่านี้คือคนที่คิดแผนชั่วและให้คำปรึกษาอันร้ายกาจในกรุงนี้


จงกล่าวคำอุปมาแก่พงศ์พันธุ์ที่ชอบกบฏนี้ว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า “ ‘จงตั้งหม้อขึ้น แล้วเทน้ำใส่


อียิปต์จะไม่ได้เป็นแหล่งพักพิงให้ชนชาติอิสราเอลอีกต่อไป แต่จะเป็นเครื่องเตือนใจพวกเขาให้สำนึกถึงบาปที่ได้หันไปพึ่งพาอียิปต์ เมื่อนั้นพวกเขาจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต’ ”


ทูตนั้นจึงกล่าวว่า “ก่อนอื่นเจ้าจงแจ้งเศรุบบาเบลถึงพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่มีมาถึงเขาว่า ‘ไม่ใช่ด้วยกำลัง ไม่ใช่ด้วยฤทธิ์อำนาจ แต่โดยวิญญาณของเรา’ พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสดังนั้น


ชนอิสราเอลตรวจดูข้าวของของพวกเขา แต่ไม่ได้ทูลถามองค์พระผู้เป็นเจ้า


ดูสิ เจ้าพึ่งอียิปต์ซึ่งเป็นเหมือนไม้เท้าต้นอ้อที่หัก ใครพิงเข้าก็ถูกเสี้ยนตำเจ็บมือ! ใครพึ่งฟาโรห์แห่งอียิปต์ก็เป็นแบบนี้แหละ


ต่อให้เจ้าพึ่งรถม้าศึกและม้าจากอียิปต์ก็ไม่อาจต่อกรกับนายทหารที่เล็กที่สุดคนหนึ่งของนายเราได้


โอ ชนชาติบาปหนา ประชากรผู้แบกความผิดไว้อย่างมากมายหนักหนา เผ่าพันธุ์ผู้กระทำชั่ว ลูกหลานของความเสื่อมทราม! พวกเขาได้ละทิ้งองค์พระผู้เป็นเจ้า หมิ่นประมาทองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล และหันหลังให้พระองค์


วิบัติแก่บรรดาผู้ลงไปขอความช่วยเหลือจากอียิปต์ ผู้พึ่งม้า ผู้วางใจในกองรถม้าศึก และในกำลังมหาศาลแห่งพลม้าของพวกเขา แทนที่จะมุ่งมององค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล หรือแสวงหาความช่วยเหลือจากองค์พระผู้เป็นเจ้า


บัดนี้ทำไมเจ้าจึงไปยังอียิปต์ เพื่อไปดื่มน้ำจากชิโหร์? และทำไมเจ้าไปยังอัสซีเรีย เพื่อไปดื่มน้ำจากแม่น้ำยูเฟรติส?


ดาบทั้งหลายจะกวัดแกว่งอยู่ในเมืองต่างๆ ของพวกเขา จะทำลายดาลประตูของพวกเขา และทำให้แผนการต่างๆ ของพวกเขาจบสิ้นลง


Sunda kami:

Mga paanunsiyo


Mga paanunsiyo