1ทิโมธี 6:17 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

¹⁷ จงกำชับบรรดาผู้ร่ำรวยในโลกปัจจุบันนี้ไม่ให้หยิ่งทะนงหรือฝากความหวังไว้กับทรัพย์สมบัติซึ่งไม่จีรังยั่งยืน แต่จงหวังใจในพระเจ้าผู้ทรงจัดเตรียมทุกสิ่งให้เราอย่างบริบูรณ์เพื่อความเบิกบานใจของเรา

Dugang nga mga bersyon

ฉบับมาตรฐาน

¹⁷ ส่วนพวกที่มั่งคั่งในชีวิตนี้ จงกำชับพวกเขาไม่ให้เย่อหยิ่ง หรือมุ่งหวังในทรัพย์ที่ไม่ยั่งยืน แต่ให้มุ่งหวังในพระเจ้าผู้ประทานทุกสิ่งแก่เราอย่างบริบูรณ์ เพื่อให้เราได้ชื่นชม

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

¹⁷ จงกำชับคนเหล่านั้​นที​่​มั่งมี​ฝ่ายโลก อย่าให้​มี​ใจถือมานะทิฐิ อย่าให้ความหวังของเขาอิงอยู่กับทรัพย์​อนิจจัง แต่​ให้​หวังในพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์​อยู่ ผู้​ทรงประทานสิ่งสารพัดให้​แก่​เราอย่างบริบู​รณ​์ เพื่อจะให้เราใช้ด้วยความปี​ติ​ยินดี

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

¹⁷ สั่ง​คน​ร่ำรวย​ใน​ยุคนี้ อย่า​หยิ่งยโส​หรือ​ฝาก​ความหวัง​ไว้​กับ​ความ​ร่ำรวย​นั้น เพราะ​มัน​ไม่​เที่ยงแท้ แต่​ให้​ฝาก​ความหวัง​ไว้​กับ​พระเจ้า​ผู้​แบ่งปัน​ทุกสิ่ง​ให้​กับ​เรา​อย่าง​ล้นเหลือ เพราะ​เห็น​แก่​ความ​สุขสบาย​ของ​เรา

พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940

¹⁷ ท่าน​จง​กำชับ​คน​เหล่านั้น​ที่​มั่ง​มี​ฝ่าย​โลก อย่า​ให้​มี​ใจ​ถือ​มา​นะทิฏฐิ, อย่า​ให้​ความหวัง​ของ​เขา​อิง​อยู่​กับ​ทรัพย์​อนิจจัง, แต่​ให้​หวัง​ใน​พระ​เจ้า​ผู้​ทรง​ประทาน​สิ่ง​สาร​พัตร​ให้​แก่​เรา​อย่าง​บริบูรณ์ เพื่อ​จะ​ให้​เรา​ใช้​ด้วย​ความ​ปิติ​ยินดี

พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV)

¹⁷ จง​กำชับ​พวก​ที่​ร่ำรวย​ใน​ยุค​ปัจจุบัน​ไม่​ให้​หยิ่ง​ผยอง หรือ​หวัง​ใน​ความ​มั่งมี อัน​เป็น​สิ่ง​ที่​เอา​แน่​ไม่​ได้ แต่​ให้​เขา​ตั้ง​ความ​หวัง​ใน​พระ​เจ้า​ผู้​จัด​หา​ทุก​สิ่ง​ให้​เรา​เพื่อ​ความ​สุข​ใจ

1ทิโมธี 6:17 Cross References

กิจการ 14:17

กระนั้นพระองค์โปรดให้มีพยานหลักฐานถึงพระองค์เอง คือทรงสำแดงพระคุณโดยประทานฝนจากฟ้าสวรรค์และพืชผลตามฤดูกาล พระองค์ประทานอาหารอันอุดมสมบูรณ์แก่ท่านและให้จิตใจของท่านเปี่ยมด้วยความชื่นชมยินดี”

สุภาษิต 11:28

คนที่วางใจในทรัพย์สมบัติจะล้มคว่ำลง ส่วนคนชอบธรรมจะรุ่งเรืองเหมือนต้นไม้ที่เจริญงอกงาม

1ทิโมธี 4:10

(ที่เราตรากตรำและฟันฝ่าก็เพื่อสิ่งนี้) คือเราหวังใจในพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ ผู้ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของมวลมนุษย์ โดยเฉพาะผู้ที่เชื่อ

มัทธิว 19:23

แล้วพระเยซูตรัสกับเหล่าสาวกของพระองค์ว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่าเป็นการยากที่คนรวยจะเข้าอาณาจักรสวรรค์

สุภาษิต 27:24

เพราะทรัพย์สมบัติไม่ยั่งยืนชั่วนิรันดร์ และมงกุฎก็ไม่ได้มั่นคงตลอดทุกชั่วอายุ

ทิตัส 2:12

สิ่งนี้สอนให้เราปฏิเสธความอธรรมและโลกียตัณหา และสอนเราให้ดำเนินชีวิตในยุคนี้อย่างคนที่รู้จักควบคุมตนเอง เป็นคนยุติธรรมและอยู่ในทางพระเจ้า

โคโลสี 3:16

จงให้พระวจนะของพระคริสต์เปี่ยมล้นอยู่ในท่านขณะที่ท่านสั่งสอนและเตือนสติกันด้วยปัญญาทั้งสิ้น และขณะที่ท่านร้องเพลงสดุดี เพลงนมัสการ และบทเพลงฝ่ายวิญญาณด้วยใจกตัญญูต่อพระเจ้า

ลู​กา 19:2

ชายคนหนึ่งที่นั่นชื่อศักเคียส เป็นหัวหน้าคนเก็บภาษีผู้ร่ำรวย

สุภาษิต 30:9

มิฉะนั้นข้าพระองค์อาจอิ่มหนำสำราญแล้วปฏิเสธพระเจ้า และพูดว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นใครกัน?’ หรือข้าพระองค์อาจยากจนแล้วลักขโมย ก็ลบหลู่พระนามพระเจ้าของข้าพระองค์

พระบัญญัติ 8:17

ท่านอาจจะบอกตัวเองว่า “เรามั่งมีขึ้นมาด้วยกำลังและอำนาจของเราเอง”

หน​ังสือโรม 11:20

ก็จริงอยู่ แต่ที่พวกเขาถูกหักออกไปเพราะไม่เชื่อ ส่วนท่านอยู่ได้ก็เพราะความเชื่อ อย่าหยิ่งผยองเลย แต่จงเกรงกลัว

โฮเชยา 13:6

เมื่อเราเลี้ยงดูพวกเขา พวกเขาก็อิ่มหนำ เมื่ออิ่มหนำแล้ว พวกเขาก็หยิ่งผยองขึ้น และลืมเรา

เยเรมีย์ 2:31

“คนรุ่นนี้เอ๋ย จงใคร่ครวญพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด “เราเป็นถิ่นกันดารหรือ? เป็นดินแดนมืดมนสำหรับอิสราเอลหรือ? แล้วทำไมประชากรของเราจึงพูดว่า ‘เมื่อเราไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ เราจะไม่มาหาพระองค์อีกต่อไป’?

สุภาษิต 23:5

แค่พริบตาเดียวทรัพย์สมบัติก็จะลับหายไป เพราะมันจะติดปีกบิน หนีไปในท้องฟ้าเหมือนนกอินทรี

เพลงสดุดี 104:28

เมื่อพระองค์ประทาน พวกมันก็เก็บรวบรวม เมื่อพระองค์ทรงแบพระหัตถ์ออก พวกมันก็อิ่มหนำด้วยสิ่งดี

เพลงสดุดี 62:10

อย่าพึ่งพาการบังคับขู่เข็ญ อย่าภาคภูมิใจในของที่ขโมยมา แม้ทรัพย์สมบัติเพิ่มขึ้น ก็อย่าปักใจกับสิ่งเหล่านั้น

เพลงสดุดี 52:7

“นี่แหละนะ คนที่ไม่ได้ยึดพระเจ้าเป็นที่มั่น แต่พึ่งพาทรัพย์สมบัติมากมายของตน และเรืองอำนาจขึ้นมาโดยการทำลายล้างผู้อื่น!”

2พงศาวดาร 26:16

แต่เมื่ออุสซียาห์เรืองอำนาจ ความเย่อหยิ่งลืมตนก็นำพระองค์ไปสู่ความตกต่ำ อุสซียาห์ไม่ซื่อสัตย์ต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของพระองค์ และล่วงล้ำเข้าไปในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อเผาเครื่องหอมบนแท่น

พระบัญญัติ 33:15

ด้วยของขวัญเลอเลิศจากภูเขาดึกดำบรรพ์ ด้วยความสมบูรณ์พูนผลจากภูเขาอันถาวรนิรันดร์

ปฐมกาล 13:2

อับรามกลายเป็นคนร่ำรวยมาก มีทั้งฝูงสัตว์และเงินทองมากมาย

2ทิโมธี 4:10

เพราะเดมาสได้ทิ้งข้าพเจ้าไปยังเมืองเธสะโลนิกาแล้วเนื่องจากเขาได้รักโลกนี้ เครสเซนส์ได้ไปยังแคว้นกาลาเทีย และทิตัสได้ไปยังเมืองดาลมาเทีย

1ทิโมธี 6:13

ในสายพระเนตรของพระเจ้าผู้ประทานชีวิตแก่สรรพสิ่ง และในสายพระเนตรของพระเยซูคริสต์ผู้ทรงประกาศความเชื่ออย่างหนักแน่นขณะให้การต่อปอนทัสปีลาต ข้าพเจ้าขอกำชับท่าน

1ทิโมธี 1:3

ตามที่ข้าพเจ้าได้กำชับท่านเมื่อข้าพเจ้าไปยังแคว้นมาซิโดเนียว่าให้ท่านอยู่ที่เอเฟซัส เพื่อท่านจะได้กำชับบางคนไม่ให้สอนหลักข้อเชื่อผิดๆ อีกต่อไป

1เธสะโลนิกา 1:9

เพราะเขาเหล่านั้นเองเล่าขานว่าพวกท่านต้อนรับเราอย่างไร และยังบอกว่าท่านได้หันจากรูปเคารพมาหาพระเจ้าเพื่อรับใช้พระเจ้าเที่ยงแท้ผู้ทรงพระชนม์อยู่

เอเฟซัส 5:5

ท่านแน่ใจได้เลยว่าคนผิดศีลธรรม คนไม่บริสุทธิ์ หรือคนโลภ คนเช่นนี้เป็นผู้กราบไหว้รูปเคารพ เขาจะไม่ได้รับมรดกใดๆ ในอาณาจักรของพระคริสต์และของพระเจ้า

กิจการ 17:25

และไม่ได้พึ่งการปรนนิบัติจากมือมนุษย์เสมือนหนึ่งว่าทรงต้องการสิ่งใดเพราะพระองค์เองคือผู้ประทานชีวิต ลมปราณ และสิ่งอื่นๆ ทั้งปวงแก่มนุษย์

กิจการ 14:27

เมื่อมาถึงที่นั่นพวกเขาเรียกประชุมคริสตจักรและรายงานสิ่งทั้งปวงที่พระเจ้าได้ทรงกระทำผ่านพวกเขาตลอดจนการที่ทรงเปิดประตูแห่งความเชื่อแก่คนต่างชาติ

มาระโก 10:24

เหล่าสาวกแปลกใจในพระดำรัส แต่พระเยซูตรัสอีกว่า “ลูกเอ๋ย ยากยิ่งนักที่จะเข้าอาณาจักรของพระเจ้า!

มัทธิว 27:57

เมื่อเวลาเย็นใกล้เข้ามาเศรษฐีคนหนึ่งมาจากอาริมาเธียชื่อโยเซฟ เขาเองก็เป็นสาวกของพระเยซู

มัทธิว 6:32

เพราะคนที่ไม่มีพระเจ้าขวนขวายหาสิ่งเหล่านี้ และพระบิดาของท่านในสวรรค์ทรงทราบว่าท่านจำเป็นต้องมีสิ่งเหล่านี้

ดาเนียล 4:30

พระองค์ตรัสว่า “เราได้สร้างบาบิโลนอันยิ่งใหญ่ไพศาลนี้ขึ้นเป็นราชวังด้วยฤทธิ์อำนาจอันเกรียงไกรของเราและเพื่อเกียรติบารมีของเราไม่ใช่หรือ?”

ยะเอศเคล 16:56

เจ้าไม่ยอมแม้แต่จะเอ่ยถึงโสโดมน้องสาวของเจ้าในวันแห่งความหยิ่งผยองของเจ้า

เพลงสดุดี 62:8

ประชาชนเอ๋ย จงวางใจในพระองค์ตลอดเวลา จงเทความในใจของท่านต่อพระองค์ เพราะพระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยของเรา เสลาห์

ทิตัส 3:6

พระเจ้าทรงเทพระวิญญาณบริสุทธิ์นี้ลงมาบนเราอย่างล้นเหลือผ่านทางพระเยซูคริสต์องค์พระผู้ช่วยให้รอดของเรา

1ทิโมธี 5:21

ข้าพเจ้าขอกำชับท่านในสายพระเนตรพระเจ้าและพระเยซูคริสต์และต่อหน้าเหล่าทูตสวรรค์ที่ทรงเลือก ให้ยึดถือข้อปฏิบัติเหล่านี้โดยไม่ลำเอียงและอย่าทำสิ่งใดโดยเลือกที่รักมักที่ชัง

1ทิโมธี 3:15

หากข้าพเจ้าล่าช้า ท่านก็จะได้รู้ว่าคนทั้งหลายควรทำตัวอย่างไรในครอบครัวของพระเจ้า คือคริสตจักรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่อันเป็นเสาหลักและรากฐานแห่งความจริง

ปัญญาจารย์ 2:24

คนเราไม่อาจทำอะไรได้ดีไปกว่ากินดื่มและหาความอิ่มใจในงานของตน ข้าพเจ้าเห็นว่าสิ่งนี้ก็มาจากพระหัตถ์ของพระเจ้าด้วย

เยเรมีย์ 49:4

เหตุใดเจ้าจึงโอ้อวดถึงบรรดาหุบเขาของเจ้า โอ้อวดว่าบรรดาหุบเขาของเจ้าอุดมสมบูรณ์นัก? ธิดาผู้ไม่ซื่อสัตย์เอ๋ย เจ้าไว้วางใจในทรัพย์สมบัติของเจ้าและคุยโอ่ว่า ‘ใครจะมาโจมตีเราได้?’

มัทธิว 12:32

ผู้ใดกล่าวล่วงเกินบุตรมนุษย์จะทรงอภัยให้ แต่ผู้ใดกล่าวล่วงเกินพระวิญญาณบริสุทธิ์จะไม่ทรงอภัยให้ไม่ว่าในยุคนี้หรือในยุคหน้า

ลู​กา 3:11

ยอห์นตอบว่า “ผู้ที่มีเสื้อสองตัวจงแบ่งให้ผู้ที่ไม่มีและคนที่มีอาหารก็ควรแบ่งปันเช่นกัน”

1ทิโมธี 6:9

คนที่อยากรวยก็ตกหล่มเย้ายวนให้ทำบาป ติดกับและตกในความปรารถนาต่างๆ อันโง่เขลาและอันตราย ซึ่งดึงมนุษย์ดิ่งลงในห้วงแห่งความพินาศย่อยยับ

2เปโตร 1:11

และท่านจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นสู่อาณาจักรนิรันดร์ของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าและพระผู้ช่วยให้รอดของเรา

มัทธิว 25:16

คนที่ได้รับห้าตะลันต์นำเงินไปลงทุนทันทีและได้กำไรมาอีกห้าตะลันต์