อิสยาห์ 1:1 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 นิมิตต์ซึ่งยะซายาบุตรของอาโมสได้เห็นเกี่ยวกับยะฮูดาและยะรูซาเลมในรัชชกาลของกษัตริย์อุซียา, กษัตริย์โยธาม, กษัตริย์อาฮาศ, และกษัตริย์ฮิศคียาผู้ครองประเทศยะฮูดา พระยะโฮวาได้ตรัสแล้วว่า, “โอฟ้าสวรรค์ทั้งหลาย, จงฟัง, โอ้แผ่นดินโลก, จงเงี่ยหูสดับเถิด; เราได้บำรุงเลี้ยงและได้ประคบประหงมบรรดาบุตรให้วัฒนาขึ้น, แต่บุตรเหล่านั้นได้ทรยศต่อเรา. โคผู้ยังรู้จักเจ้าของของมัน, และสัตว์ลายังรู้จักรางหญ้าของเจ้าของ: แต่พวกยิศราเอลนั้นหาได้รู้จักอย่างนั้นไม่, พลเมืองของเรานั้นมิได้ใช้ความคิดตรึกตรอง.” เออ, ประเทศที่เต็มไปด้วยบาป, พลเมืองที่เพียบไปด้วยอสัตย์อธรรม, เป็นว่านเครือของผู้กระทำชั่ว, เป็นลูกหลานที่ประกอบการคดโกง: เขาทั้งหลายเหล่านั้นได้ละทิ้งพระยะโฮวาเสีย, และได้หมิ่นประมาทองค์บริสุทธิ์ของพวกยิศราเอล, เขาทั้งหลายได้เหินห่างและก้าวถอยหลังไป. ทำไมเจ้าทั้งหลายยังขืนทรยศต่อไป? แล้วก็ต้องถูกเฆี่ยนตีมากขึ้น: ทั้งศีรษะก็เจ็บไปทั่ว, และทั้งใจก็ละเหี่ยม่อยไป. ตั้งแต่ฝ่าเท้าขึ้นไปตลอดกะทั่งศีรษะไม่มีที่ปกติเลย; มีแต่บาดแผลและรอยฟกช้ำ, และรอยแผลเฆี่ยน: แผลเหล่านั้นมิได้ปิดไว้, หรือมิได้พันไว้, หรือมิได้ใส่น้ำมันให้เนื้อนิ่มเลย. ประเทศของเจ้าก็ร้างเปล่า, นครของเจ้าก็ถูกเผาผลาญ: ส่วนดินแดนของเจ้านั้นคนต่างชาติก็กลืนกินเสียต่อหน้าเจ้า, และมันก็ร้างไป, เหมือนกับว่าคนต่างชาติ-ได้ทำลายมันเสีย. ส่วนลูกหญิงของกรุงซีโอนนั้นถูกละไว้เหมือนอย่างห้างสวนในสวนองุ่น, และเหมือนกับกะท่อมในไร่แตงกวา, และเหมือนกับเมืองที่ถูกล้อมไว้. ถ้าหากพระยะโฮวาจอมพลโยธามิไดละเว้นเราซึ่งเป็นหน่วยน้อยนั้นเสีย, เราก็จะเป็นเหมือนอย่างเมืองซะโดม, และเป็นเหมือนอย่างเมืองอะโมรา ดูกรท่านผู้ครองเมืองซะโดม, จงสดับฟังคำตรัสของพระยะโฮวา; ดูกรชนชาวอะโมรา, จงเอียงหูฟังพระบัญชาของพระเจ้าของพวกเราเถิด. พระยะโฮวาได้ตรัสว่า, “เครื่องบูชาเผามากมายก่ายกองของเจ้าจะเป็นประโยชน์อะไรแก่เรา? เราเบื่อเครื่องบูชาเผาแกะตัวผู้, และมันข้นแห่งสัตว์เลี้ยง; และมิได้ชื่นใจในโลหิตแห่งลูกโคผู้, หรือของลูกแกะ, หรือของแพะผู้. เมื่อเจ้ามาปรากฏตัวต่อหน้าเรานั้น, ใครได้ขอร้องให้เจ้าเหยียบเข้ามาในสำนักของเรา? อย่าได้นำเครื่องบูชาสัตว์อันขาดจิตต์เคารพมาอีกเลย; กลิ่นเครื่องบูชาจะเพิ่มความสะอิดสะเอียนแก่เรามากขึ้น; ในสมัยประชุมประจำเดือนแรกเดือนขึ้น, วันซะบาโตและสมัยประชุมประจำปี, เราไม่ชอบใจเลยแม้ถึงการที่ประชุมนมัสการอย่างพิเศษนั้น, ก็เป็นการอสัตย์อธรรม. วันถือเทศกาลแรกเดือนขึ้น, วันถือพิธีต่างๆ ที่ได้กำหนดไว้ของเจ้านั้นเราเกลียดชังนัก; ลัทธิเหล่านั้นเป็นภาระรุงรังแก่เรา, เราเบื่อหน่ายที่จะทนแบกต่อไปแล้ว. แลเมื่อเจ้าทั้งหลายชูมือกางขึ้น, เราจะเมินหน้าเสียจากพวกเจ้า: เออ, เมื่อเจ้าอธิษฐานมากมายหลายหน, เราจะไม่ฟัง: ด้วยมือของพวกเจ้าเปรอะเปื้อนไปด้วยโลหิต. ล้างเสียเถอะ, จงชำระตัวเสียให้สะอาดหมดจด; เจ้าจงเลิกทำการชั่วและกำจัดมันเสียให้พ้นจากสายตาของเรา; จงงดกระทำชั่วเสียทีเดียว; จงฝึกหัดกระทำการดี; จงแสวงหาที่จะให้ความยุตติธรรม, จงขัดขวางการกระทำของผู้ข่มเหง, จงให้ความยุตติธรรมแก่ลูกกำพร้า, จงเป็นปากเสียงให้แก่หญิงม่าย.” พระยะโฮวาตรัสว่า, “มาเถิด, ให้เรามาหารือตกลงกันเสียให้เด็ดขาด: แม้บาปของเจ้าจะแดงเป็นเหมือนสีที่แดงก่ำบาปนั้นก็อาจจะกลับกลายเป็นสีขาวเหมือนอย่างหิมะ; แม้บาปของเจ้าจะแดงเป็นเหมือนสีที่แดงเข้ม, บาปนั้นก็อาจจะขาวเหมือนอย่างขนแกะ. ถ้าเจ้าสมัครใจเชื่อฟัง, เจ้าก็จะได้เก็บกินผลแห่งแผ่นดินอย่างบริบูรณ์: แต่ถ้าเจ้าไม่ยอม, และยังทรยศอยู่, เจ้าก็จะต้องเป็นเหยื่อแห่งคมดาบ:” เพราะพระโอษฐ์ของพระยะโฮวาได้ตรัสดังนั้น เมืองที่สัตย์ซื่อยังมากลายเป็นเมืองหญิงนอกใจไปได้! เมืองนั้นเคยเต็มด้วยความยุตติธรรม; ความชอบธรรมเคยได้ดำรงอยู่ในเมืองนั้น; แต่มาบัดนี้กลายเป็นเมืองของนักฆาตกรรม. เนื้อเงินก็กลายเป็นขี้เงินไปแล้ว, เหล้าองุ่นของเจ้านั้นก็ถูกปนด้วยน้ำท่า: ผู้ครองเมืองของเจ้าแต่หาครองตัวของเขาเองได้ไม่, และกลับไปเป็นมิตรของพวกโจร: ต่างก็ชอบกินสินบน, และเสาะหาสินจ้างเขาไม่ให้ความยุตติธรรมแก่ลูกกำพร้าและไม่นำพาต่อคดีของหญิงม่าย ดังนั้นพระยะโฮวาจอมพลโยธาทั้งหลาย, องค์ผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุดของชาติยิศราเอลตรัสว่า, “อ้า, เราจะปลีกตัวออกจากศัตรูของเรา, และจะแก้แค้นปัจจามิตรของเรา. เราจะวางมือของเราลงบนเจ้า, และเราจะถลุงขี้แร่ออกจากเจ้าเสียให้บริสุทธิ์, และกำจัดการเจือปนของเจ้าออกเสียให้หมดสิ้นไป; เราจะกลับตั้งผู้พิพากษาของเจ้าให้คงตำแหน่งเดิมและตั้งคณะที่ปรึกษาของเจ้าไว้เหมือนแต่แรกแต่นั้นไปเจ้าจะถูกขนานนามว่าเป็นนครแห่งความชอบธรรม, และสัตย์ซื่อ. กรุงซีโอนจะถูกไถ่ออกมาด้วยความยุตติธรรม, และพลเมืองที่กลับใจนั้นจะรอดพ้นด้วยความชอบธรรม. ผู้ล่วงบัญญัติและคนบาปจะพินาศไปด้วยกับและเขาทั้งหลายที่ละทิ้งพระยะโฮวานั้นจะมอดม้วยไป. แล้วเขาจะอับอายขายหน้าเพราะต้นโอ๊คศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเขาเคยพึ่งใจมาแต่ก่อน, และเจ้าจะขวยเขินต่อหมู่ไม้ที่เจ้าเลือกไว้เคารพบูชา. เพราะเจ้าจะเป็นดุจต้นโอ๊คที่เหี่ยวแห้ง, และดุจหมู่ไม้ที่ไม่มีน้ำหล่อเลี้ยง. และผู้ที่เข้มแข็งก็จะเป็นเหมือนอย่างขุยป่านและรูปเคารพที่เขาทำขึ้นก็จะเปรียบเหมือนประกายไฟ, และทั้งสองอย่างก็จะเผาผลาญไปด้วยกัน, และไม่มีใครจะดับเสียได้ Tan-awa ang kapituloDugang nga mga bersyonฉบับมาตรฐาน1 นิมิตเกี่ยวกับยูดาห์และเยรูซาเล็มที่อิสยาห์บุตรอามอสได้เห็นในรัชกาลของอุสซียาห์ โยธาม อาหัส และเฮเซคียาห์ บรรดากษัตริย์ของยูดาห์ Tan-awa ang kapituloพระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV1 นิมิตของอิสยาห์บุตรชายของอามอส ซึ่งท่านได้เห็นเกี่ยวกับยูดาห์และเยรูซาเล็ม ในรัชกาลของอุสซียาห์ โยธาม อาหัส และเฮเซคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ Tan-awa ang kapituloพระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย1 นิมิตเกี่ยวกับยูดาห์และเยรูซาเล็มซึ่งอิสยาห์บุตรอาโมศเห็นในช่วงรัชกาลของอุสซียาห์ โยธาม อาหัส และเฮเซคียาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์ เป็นดังนี้ Tan-awa ang kapituloพระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย1 นี่คือนิมิตของอิสยาห์ลูกชายของอามอส ที่เขาเห็นเกี่ยวกับยูดาห์และเยรูซาเล็ม เขาเห็นนิมิตนี้ในช่วงสมัยที่อุสซียาห์ โยธาม อาหัส และเฮเซคียาห์ เป็นกษัตริย์ปกครองยูดาห์ Tan-awa ang kapituloพระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV)1 ภาพนิมิตซึ่งอิสยาห์บุตรอามอสเห็น เป็นภาพเกี่ยวกับยูดาห์และเยรูซาเล็มในรัชสมัยของบรรดากษัตริย์แห่งยูดาห์คือ อุสซียาห์ โยธาม อาหัส และเฮเซคียาห์ Tan-awa ang kapitulo |
อยู่มาในรัชชกาลของกษัตริย์อาฮาศราชบุตรของโยธาม, โยธามราชบุตรของอุซียากษัตริย์ของยะฮูดา, ระซีนกษัตริย์ประเทศซุเรีย, และเพคาราชบุตรของระมาลยากษัตริย์ของยิศราเอล, ได้ยกกองทัพขึ้นไปยังกรุงยะรูซาเลม, เพื่อทำสงครามกับกรุงนั้น, แต่รบเอาชะนะไม่ได้.
ถ้อยคำซึ่งยะซายาบุตรของอาโมสได้รับมาเกี่ยวข้องกับยะฮูดาและยะรูซาเลม เมื่อถึงสมัยสุดท้ายนั้น, ภูเขาอันเป็นที่ตั้งของโบสถ์แห่งพระยะโฮวานั้น, จะถูกสถาปนาขึ้นให้เท่าเทียมกับขุนเขาสูงทั้งหลาย, และจะถูกยกชูขึ้นให้สูงเยี่ยมเหนือภูเขาทั้งมวล; และประชาขนจะหลั่งไหลไปถึงที่นั่น. และประชาชาติเป็นอันมากจะพากันกล่าวว่า, “มาเถิดพวกเรา, ให้เราขึ้นไปยังภูเขาแห่งพระยะโฮวา, และยังโบสถ์ของพระเจ้าแห่งยาโคบ. พระองค์จะได้ทรงสอนเราให้รู้จักวิถีทางของพระองค์และเราจะได้เดินไปตามทางของพระองค์นั้น: ด้วยว่าพระบัญญัติจะออกไปจากท้องถิ่นซีโอน, และพระคำของพระยะโฮวาจะออกไปจากกรุงยะรูซาเลม.” และพระองค์จะทรงวินิจฉัยความระหว่างประชาชาติ, และจะทรงตัดสินเรื่องของมหาชน: และเขาทั้งหลายจะเอาดาบของเขาตีเป็นผาลไถนา, และเอาหอกตีเป็นขอสำหรับลิดแขนง; ประเทศต่อประเทศจะไม่ยกดาบขึ้นต่อสู้กัน, และเขาจะไม่ศึกษายุทธศาสตร์อีกต่อไป ดูกรตระกูลยาโคบ, มาเถิดท่านทั้งหลาย, และให้เราดำเนินในแสงสว่างของพระยะโฮวา. ด้วยพระองค์ได้ทรงละทิ้งพลเมืองของพระองค์คือตระกูลของยาโคบเสีย, เพราะเขานำประเพณีชาวตะวันออกมาแพร่ไว้เต็มบ้านเต็มเมือง, และคนทรงเจ้าเข้าผีอย่างชาวฟาเลเซ็ศ, เขาทั้งหลายคบค้าสมาคมกับคนต่างชาติ. และบ้านเมืองของเขาจึงบริบูรณ์ไปด้วยเงินและทอง, ทรัพย์สมบัติของเขามีมากมายเหลือคณนา; และบ้านเมืองของเขาบริบูรณ์ไปด้วยม้า, และรถรบของเขามีมากเหลือประมาณ. และเขาก็มีรูปเคารพเต็มบ้านเต็มเมืองด้วย; เขาได้นมัสการสิ่งซึ่งทำขึ้นด้วยมือของเขาเอง, และกราบไหว้สิ่งซึ่งนิ้วของเขาเองได้ประดิษฐ์ขึ้น. ดังนั้นมนุษย์ชาติจึงได้ลดฐานะของตัวเองลง, และคนแท้ๆ ก็ยังเหยียดตัวของตัวเองลง: เพราะฉะนั้นอย่าให้อภัยโทษเขาเลย จงมุดเข้าไปในซอกเขา, และซ่อนตัวเจ้าอยู่ในโพรงใต้ดิน, เพื่อจะได้พ้นจากความน่ากลัวแห่งพระยะโฮวาและรัศมีและเดชานุภาพของพระองค์. สายตาอันเย่อหยิ่งของมนุษย์จะต้องถูกหลบลง, และความจองหองของมนุษย์จะต้องถูกข่มให้ต่ำลง, และในวันนั้นพระยะโฮวาแต่องค์เดียวจะถูกเทอดให้สูงยิ่ง. เพราะพระยะโฮวาจอมพลโยธาทรงมีวันไว้สำหรับคนเย่อหยิ่งและคนจองหองและคนที่ยกตัวขึ้นที่จะต้องถูกเหยียดลง. และวันสำหรับต้นสนบนเขาละบาโนน, ที่เป็นต้นสูง, และวันสำหรับต้นโอ๊คทั้งหลายแห่งเมืองบาซาน, และวันสำหรับขุนเขาทั้งหลาย, และวันสำหรับภูเขาทั้งหลายที่สูงเยี่ยม; และวันสำหรับป้อมอันสูงทุกป้อม, และวันสำหรับกำแพงที่พร้อมสรรพด้วยเครื่องรบ. และวันสำหรับกำปั่นทั้งหลายแห่งเมืองธาระซิศ, พร้อมด้วยรูปสลักอันวิจิตร. และความใฝ่สูงของมนุษย์จะต้องถูกเหยียดลงมาต่ำ, และความเย่อหยิ่งของมนุษย์จะต้องถูกข่มให้ต่ำลง; และในวันนั้นพระยะโฮวาแต่องค์เดียวจะต้องถูกเทอดให้สูงยิ่ง. และรูปเคารพทั้งหลายจะต้องศูนย์หายไปสิ้น. เมื่อพระองค์จะทรงลุกขึ้นเขย่าโลกอย่างหนักยิ่ง, คนจะหนีเข้าไปซุกซ่อนในถ้ำเขา, และในโพรงดิน, เพื่อจะให้พ้นจากความน่ากลัวแห่งพระยะโฮวา, และรัศมีและเดชานุภาพของพระองค์. ในวันนั้นคนทั้งหลายจะทิ้งรูปเคารพที่ทำด้วยเงิน, และรูปเคารพที่ทำด้วยทอง, ซึ่งได้ทำไว้สำหรับกราบไหว้นั้น, ไปปะปนอยู่กับหนูผีและค้างคาว. ทิ้งลงไปยังถ้ำใหญ่ในภูเขา, ทิ้งลงไปในซอกหินชัน, ให้พ้นจากความน่ากลัวแห่งพระยะโฮวา, และรัศมีและเดชานุภาพของพระองค์, เมื่อพระองค์จะทรงลุกขึ้นเขย่าโลกอย่างหนักยิ่ง. จงหยุดการวางใจแก่มนุษย์, ที่มีลมหายใจทางจมูก, เพราะว่าจะไว้ใจเขาที่ไหนได้?
“เรื่องราวอันน่าหนักใจเกี่ยวข้องกับประเทศบาบูโลนซึ่งยะซายาบุตรของอาโมสได้เห็นทางนิมิตต์ จงปักธงเครื่องหมายรวมพลขึ้นที่ภูเขาอันเตียนโล่ง, จงตะโกนเรียก, จงโบกมือเรียกเขาให้เข้าไปทางประตูสำหรับผู้มีเกียรติ. เราได้บัญชาแก่ผู้ที่เลือกสรรของเรา, เออ, เราได้เรียกชายฉกรรจ์ของเราให้จัดการไปให้สมกับความพิโรธของเรา, ถึงแม้ว่าคนที่เย่อหยิ่งทะนงตัวเราก็เรียกด้วย. ฟังแน่ะ! เสียงกึกก้องบนภูเขาเหมือนเสียงมาจากคนมากมาย! ฟังแน่ะ! เสียงโห่ร้องของราชอาณาจักรและของประชาชาติที่มาชุมนุมกัน! พระยะโฮวาจอมพลโยธากำลังเรียกระดมพลสำหรับทำศึก. เขายกมาจากแดนไกล, จากประเทศสุดหล้าฟ้าเขียว, คือพระยะโฮวาและเครื่องยุทโธปกรณ์สำหรับจัดการไปให้สมกับความพิโรธของพระองค์, เพื่อจะทำลายแผ่นดินนั้นให้หมดสิ้น. จงพิลาปร้องไห้, เพราะว่าวันของพระยะโฮวาจวนจะถึงอยู่แล้ว, และจะมาเหมือนอย่างความพินาศอันมาจากพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์. ดังนั้น, มือทั้งหลายจะอ่อนเปลี้ยไป, และใจของทุกคนจะอ่อนละลายไป. และต่างก็จะพิศวงงงงวย, ความปวดร้าวและความทุกข์จะมีแก่เขา, เขาจะปวดร้าวเหมือนสตรีคลอดบุตร: ต่างก็จะตกตลึงพรึงเพลิด, และหน้าตาของเขาก็จะแดงเป็นแสงไฟ. ดูเถิด, วันแห่งพระยะโฮวานั้นกำลังจะมาถึงอย่างดุเดือดด้วยความพิโรธและความกริ้วอย่างร้ายแรง, เพื่อจะทำให้แผ่นดินร้างเปล่า, และผลาญคนบาปที่อยู่ในนั้นให้สิ้นศูนย์ไป. ด้วยดวงดาราทั้งหลายในท้องฟ้า, และกลุ่มดาวทั้งหลายจะรุบรู่, พอดวงอาทิตย์โผล่ขึ้นมาก็จะมืดไป, และดวงจันทร์ก็จะอับแสง. และเราจะลงโทษมนุษย์โลกเพราะความชั่วร้ายของเขา, และคนโหดร้ายเพราะความอสัตย์อธรรมของเขา; และเราจะปราบความเย่อหยิ่งของคนอหังการให้สิ้นไป, และจะปราบความโอหังของผู้ข่มขี่ให้ราบลง. และเราจะกระทำให้บุรุษเป็นของหายากยิ่งกว่าทองคำบริสุทธิ์. เออ, ชายจะหายากเหมือนอย่างแร่ทองคำบริสุทธิ์แห่งโอพีร. เหตุฉะนั้น, เราจะกระทำให้ท้องฟ้าสั่นสะท้าน, และแผ่นดินโลกหวั่นไหวเคลื่อนจากที่ของมัน, ด้วยพระพิโรธแห่งพระยะโฮวาจอมพลโยธา, ในวันที่พระองค์ทรงกริ้วอย่างร้ายแรง. และเขาจะเป็นเหมือนเนื้อสมันที่ถูกล่า, และดุจฝูงแกะที่ไม่มีใครรวมฝูง; ต่างก็จะหนีไปหาพวกพ้องของตนทุกคน, และต่างก็จะหนีไปยังประเทศบ้านเมืองของตนเอง. เขาพบใครก็จะแทงให้ถึงตาย, และจับใครได้ก็จะเอาดาบฟันให้ล้มลง. และลูกเด็กเล็กแดงก็จะถูกฟาดให้ยับเยินต่อหน้าต่อตาเขา; และบ้านเรือนของเขาจะถูกปล้น, และภรรยาของเขาก็จะถูกข่มขืนน้ำใจ นี่แน่ะ, เราจะเร้าพวกมาดายให้มารบกับเขา, พวกเหล่านั้นจะไม่เห็นแก่เงิน, และแม้ว่าถึงทองเขาก็ไม่พึงใจปรารถนา. และคันธนูของเขาจะฟาดยุวชนให้ย่อยยับไป; และเขาจะไม่เมตตาต่อทารกที่ผ่านมาจากครรภ์, และหน่วยตาของเขาจะไม่ปราณีแก่พวกเด็กเล็กแดงเลย. และกรุงบาบูโลนซึ่งเป็นสง่าของราชอาณาจักรทั้งหลาย, เป็นเมืองงามซึ่งชาวเคเซ็ธอวดอ้างนั้น, จะเป็นเหมือนอย่างเมืองซะโดมและเมืองอะโมราที่พระเจ้าได้ทรงคว่ำทะลายเสียนั้น. และเมืองนั้นจะไม่มีใครมาอยู่ต่อไปอีกเลย, และจะไม่มีใครมาตั้งบ้านเรือนอาศัยต่อไปทุกชั่วอายุ, ถึงพวกอาหรับก็จะไม่ตั้งกะโจมอาศัยอยู่ที่นั่น; หรือผู้เลี้ยงแกะจะไม่นำฝูงแกะไปพักนอนอยู่ที่นั่นเลย. แต่สัตว์ป่าประจำทะเลทรายจะอาศัยนอนอยู่ที่นั่น; และตามบ้านเรือนของเขาจะมีสัตว์ที่เห่าหอนอาศัยอยู่ทั่วไป, และนกกระจอกเทศจะอาศัยอยู่ตามนั้น, และแพะป่าจะกะโดดโลดเต้นอยู่ที่นั้น. และฝูงสุนัขป่าจะเห่าหอนอยู่ในปราสาทของเขา, และสัตว์เห่าหอนจะเห่าหอนอยู่ในวังอันแสนสุขของเขา: และเวลากำหนดสำหรับกรุงบาบูโลนนั้นใกล้จะถึงแล้ว, และวันเวลาอันนั้นจะไม่ถูกผัดเพี้ยนให้ยืดออกไปอีกเลย
เรื่องราวอันน่าหนักใจเกี่ยวกับเมืองนีนะเว, คือหนังสือแห่งนิมิตต์ของท่านนาฮูมชาวเมืองเอลโคซี พระยะโฮวาเป็นพระเจ้าทรงหวงแหน; และเป็นผู้ทรงตอบแทนโทษให้สาสม. พระยะโฮวาทรงลงโทษตอบแทน, และทรงมีพระพิโรธเต็มขนาด. พระยะโฮวาทรงลงโทษตอบแทนแก่ปรปักษ์ของพระองค์, และทรงสะสมโทษไว้สำหรับศัตรูของพระองค์. พระยะโฮวาทรงอดพระโทโสไว้นาน, แม้ว่าพระองค์ทรงฤทธานุภาพยิ่งใหญ่, และจะไม่ทรงละเว้น ลงโทษคนบาปใดๆ เลย. พระมรรคาของพระยะโฮวาอยู่ในพายุเพ็ชรหึง, และในพายุฝนอันแรงกล้า: เมฆทั้งหลายก็เป็นเหมือนฝุ่นฟุ้งที่พระบาทของพระองค์. พระองค์ทรงปิดทางห้วงน้ำและมันก็แห้งไป; ทั้งแม่น้ำทั้งหลายก็แห้งแล้ง ไปด้วย. ภูเขาบาซานและคาระเม็ลก็แห้งแล้งไป, และความสดชื่นแห่งภูเขาละบาโนนก็เหือดหายไป. เนื่องจากพระ องค์เสด็จไปภูเขาก็สั่นสะท้าน, และเนินเขาก็ย่อยยับหายไป; พื้นแผ่นดินก็ปั่นป่วนไปต่อพระพักตรของพระองค์, ทั้งพิภพและอะไรๆ ที่อยู่บนพิภพนั้น. ใครจะต้านทานพระพิโรธของพระองค์ได้? ใครจะทนความกริ้วอันแรงกล้าของพระองค์ได้? ความกริ้วของพระองค์นั้นเทออกมาดุจไฟ, และศิลาก็แตกออกเป็นชิ้นๆ โดยพระองค์ พระยะโฮวาทรงไว้ซึ่งความดี, ทรงเป็นสถานนิราภัยในคราวภัยพิบัติ, และพระองค์ทรงรู้จักพวกที่เข้ามาพึ่งอาศัยใน พระองค์. ส่วนผู้ที่เป็นปรปักษ์ของพระองค์นั้น, พระองค์ทรงทำลายที่ของเขาด้วยกระแสร์น้ำท่วม, และทรงไล่ศัตรูของพระองค์ให้เข้าไปยังที่มืด. เหตุไฉนท่านจึงวางอุบายเอาชะนะพระยะโฮวา? ในที่สุดพระองค์ต้องเป็นฝ่ายชะนะ อย่างเด็ดขาด; การต่อสู้อันนั้นจะเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองไม่ได้. ด้วยว่าถึงเขาจะประสานกันแน่นดุจรั้วหนาม, และดื่มสุราเสียจนเต็มปรี่, เขาก็จะต้องถูกเผาให้มอดไปดุจตอฟางแห้ง โอ้เมืองนีนะเว, เคยมีผู้หนึ่งมาจากท่านแล้วมิใช่หรือที่ได้วางอุบายอันชั่วจะเอาชะนะพระยะโฮวา, ที่ได้ใช้กลมารยาชั่วร้ายทั้งนั้น? พระยะโฮวาตรัสดังนี้ว่า. “แม้พวกนั้นมีกำลังเรี่ยวแรงเต็มขนาด, ทั้งมีจำนวนมากด้วย, แต่ถึงกระนั้นเขาจะต้องถูกประหารเสียและพินาศศูนย์ไป. เราได้ลงโทษเจ้ามาแล้ว, แต่เราจะไม่ลงโทษเจ้าต่อไปอีก. และบัดนี้เราจะหักแอกของเขาออกเสียจากเจ้า, และเราจะกระชากเครื่องผูกรัดของเจ้าให้ขาดสลายไป.” ฝ่ายพระยะโฮวาได้มีพระบัญชามายังท่านว่า, “นามของเจ้าจะไม่ถูกหว่านให้แพร่หลายต่อไปอีก; เราจะทำลายรูปแกะสลักและรูปหล่อเสียจากโบสถ์พระทั้งหลายของเจ้า; เราจะขุดหลุมฝังเจ้า, เพราะเจ้าชั่วนัก.” ดูนั่นแน่ะ, เท้าของคนที่นำข่าวดี, ที่ประกาศสันติสุข, มายืนอยู่บนภูเขาแล้ว. โอ้ชาวยะฮูดา, จงรักษาประเพณีการเลี้ยงเทศกาลของท่าน; จงแก้บนของท่านเสียให้ครบถ้วน; ด้วยว่าเหล่าศัตรูชั่วนั้นจะไม่ผ่านเข้ามาท่ามกลางพวกท่าน ได้อีกเลย; ด้วยเขาถูกประหารย่อยยับไปแล้ว
พระคำแห่งพระยะโฮวาที่มาถึงโฮเซอาบุตรของบะเอรีในรัชชกาลแห่งอุซียา, โยธาม, อาฮาศและฮิศคียากษัตริย์แห่งประเทศยะฮูดา, และในรัชชกาลของยาราบะอามบุตรของโยอาศกษัตริย์แห่งประเทศยิศราเอล เริ่มแรกที่พระยะโฮวาได้ตรัสโดยปากของโฮเซอานั้น, พระยะโฮวาได้ตรัสแก่โฮเซอาว่า, “จงไปรับหญิงผู้มีนิสสัยนอกใจสามีมาเป็นภรรยา, และเกิดลูกชู้กับเขา; เพราะว่าประเทศบ้านเมืองกำลังกระทำการนอกใจพระยะโฮวายิ่งนัก, และละทิ้งพระองค์ไป.” ดังนั้นท่านจึงไปรับนางโฆเมรลูกสาวของดิบลายิมมาเป็นภรรยา, และนางก็มีครรภ์กับท่านและคลอดบุตรมา. แล้วพระยะโฮวาได้ตรัสแก่ท่านว่า, “จงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า ‘ยิศเรล,’ เพราะอีกไม่ช้าเราจะบันดาลให้บาปกรรมซึ่งยิศเรลถูกเยฮูกระทำให้โลหิตตกนั้นกลับไปตกอยู่แก่เชื้อสายของเยฮู, เป็นการแก้แค้นทดแทนกัน, และจะกระทำให้แผ่นดินยิศราเอลเสื่อมศูนย์ไป. และกาลวันนั้นจะมีเหตุการณ์ดังนี้คือ, เราจะหักธนูของแผ่นดินยิศราเอลในที่หว่างเขายิศเรล.” ต่อมานางก็ตั้งครรภ์ขึ้นอีก, และคลอดบุตรเป็นหญิง, และพระยะโฮวาได้ตรัสว่า, “จงตั้งชื่อบุตรว่า ‘โล-รูฮามา,’ เพราะเราจะไม่เมตตาแก่เชื้อวงศ์ของยิศราเอลอีก, พอที่จะโปรดยกบาปผิดของเขา; แต่เราจะเมตตาแก่เชื้อวงศ์ของยะฮูดา; ยะโฮวาพระเจ้าของเขานั้นเองจะทรงช่วยให้เขารอด, โดยมิต้องใช้ธนู, หรือดาบ, หรือการสู้รบ, หรือม้า, หรือทหารม้า.” ครั้นนางได้ให้โล-รูฮามาหย่านมแล้ว, นางก็ตั้งครรภ์อีกและคลอดบุตรเป็นชาย. พระยะโฮวาจึงตรัสว่า, “จงตั้งชื่อบุตรนั้นว่า ‘โล-อัมมี; ‘เพราะหมายความว่าเจ้าทั้งหลายไม่ใช่เป็นพลไพร่ของเรา, และเราก็มิใช่เป็นพระเจ้าของเจ้าทั้งหลาย.” “แต่จำนวนพวกยิศราเอลก็ยังจะทวีมากขึ้นเหมือนเม็ดทรายในทะเลซึ่งจะตวงหรือนับไม่ถ้วน; และต่อมาภายหลัง, แทนคำที่ได้กล่าวไว้แล้วว่า ‘เจ้าทั้งหลายมิใช่เป็นพลไพร่ของเรา’ นั้น, ก็จะมีคำกล่าวแก่เขาว่า ‘เจ้าทั้งหลายเป็นบุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่.’ และพลเมืองยะฮูดาและพลเมืองยิศราเอลจะรวมกัน, และเขาทั้งหลายนั้นจะตั้งผู้หนึ่งให้เป็นประมุข, และจะพากันออกไปจากประเทศ, เพราะวันแห่งยิศเรลนั้น, จะเป็นวันสำคัญมาก.”